ฑูตสวรรค์ผู้รับใช้พระเจ้าในอาณาจักรสวรรค์
โยบ 38:4 “เจ้าอยู่ที่ไหน เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลก? บอกมาเลย ถ้าเจ้ามีความเข้าใจ
โยบ 38:5 ผู้ใดได้กำหนดขนาดให้โลก? แน่นอนละ เจ้าต้องรู้ซี หรือผู้ใดขึงเชือกวัดบนนั้น?
โยบ 38:6 รากฐานของโลกจมไปอยู่บนอะไร? ผู้ใดวางศิลามุมเอกของมัน
โยบ 38:7 เมื่อเหล่าดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน?
สดด. 8:5 พระองค์ทรงสร้างเขาให้ต่ำกว่าพระองค์แต่หน่อยเดียว และทรงสวมศักดิ์ศรีกับความมีอำนาจให้เขา
ก่อนที่พระเจ้าจะสร้างมนุษย์ขึ้นมาในโลกนี้นั้น พระเจ้าเองก็ได้ทรงสร้างฑูตสวรรค์มาก่อนมนุษย์เสียอีก
พระเจ้าสร้างฑูตสวรรค์ขึ้นมาจำนวนมกมายมีศักดิ์ศรีกว่ามนุษย์โลกเพียงเล็กน้อย
ฑูตสวรรค์เป็นผู้รับใช้พระเจ้าในสวรรค์มาตั้งแต่ดั่งเดิมก่อที่พระเจ้าจะสร้างโลกนี้เสียอีก
และซาตานมันก็มีที่มาจากพวกฑูตสวรรค์ที่ตกต่ำที่คิดทศยศก่อการกบฎต่อพระเจ้า
ดังนั้นซาตานมันก็คือพวกอดีตฑูตสวรรค์นั่นเอง
ในพระคัมภีร์มีการกล่าวถึงฑูตสวรรค์ด้วยกันถึง 4ประเภทใหญ่ๆคือ
อัครเทวาทูตธิบดี
ยด. 1:8 ในทำนองเดียวกันพวกนักเพ้อฝันเหล่านี้ทำให้ตัวเป็นมลทิน และปฏิเสธสิทธิอำนาจขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพูดลบหลู่เทวทูตผู้มีศักดิ์ศรี
ยด. 1:9 แม้แต่มีคาเอลหัวหน้าทูตสวรรค์ เมื่อโต้เถียงกับมารเรื่องศพของโมเสส ท่านเองก็ยังไม่บังอาจพูดลบหลู่มารเลย แต่พูดเพียงว่า “ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดุว่าเจ้าเถิด”
ฑูตสวรรค์ทั่วไป
วว. 5:11 แล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นและได้ยินเสียงของทูตสวรรค์มากมายนับจำนวนเป็นแสนๆ เป็นล้านๆ ที่อยู่รอบพระที่นั่ง รอบพวกสิ่งมีชีวิต และรอบบรรดาผู้อาวุโส
เครูบหรือเชรูบิน
ปฐก. 3:24 พระองค์ทรงขับไล่ชายนั้นออกไป และทรงตั้งเหล่าเครูบทางด้านทิศตะวันออกของสวนเอเดน และตั้งดาบเพลิงอันหนึ่งที่หมุนได้ไว้เฝ้าทางที่จะไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น
อพย. 25:18 เจ้าจงทำเครูบทองคำสองรูป โดยใช้ค้อนเป็นเครื่องมือทำและตั้งไว้ที่ปลายทั้งสองข้างของพระที่นั่งกรุณา
2พกษ. 19:15 และเฮเซคียาห์ทรงอธิษฐานเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ประทับเหนือเหล่าเครูบ พระองค์แต่องค์เดียวทรงเป็นพระเจ้าแห่งบรรดาราชอาณาจักรของแผ่นดินโลก พระองค์ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
เสราฟิม
อสย. 6:1 ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ ข้าพเจ้าเห็นองค์เจ้านายประทับบนพระที่นั่งอันสูงส่งและรับการเทิดทูน และชายฉลองพระองค์ของพระองค์เต็มพระวิหาร
อสย. 6:2 เหนือพระองค์มีพวกเสราฟิมยืนอยู่ แต่ละองค์มีปีก 6 ปีก ใช้ 2 ปีกปิดหน้า ใช้ 2 ปีกปิดเท้า และใช้ 2 ปีกบินไป
นอกจากนี้ในพระคัมภีร์ยังมีการพบว่า ฑุตของพระเจ้า ซึ่งไม่ใช่ใหมายถึงฑูตสวรรค์เลยแต่เป็นคำที่หมายถึงพระเจ้าโดยตรง
ปฐก. 16:7 ทูตของพระยาห์เวห์พบหญิงนั้นที่น้ำพุในถิ่นทุรกันดาร ข้างทางที่จะไปชูร์
ปฐก. 16:8 จึงถามว่า “ฮาการ์ หญิงคนใช้ของนางซาราย เจ้ามาจากไหนและเจ้าจะไปไหน?” นางทูลตอบว่า “ข้าพระองค์หนีมาให้พ้นหน้านางซาราย นายของข้าพระองค์”
ปฐก. 16:9 ทูตของพระยาห์เวห์จึงกล่าวว่า “กลับไปหานายผู้หญิงของเจ้า และยอมอยู่ใต้บังคับนางเถิด”
ปฐก. 16:10 ทูตของพระยาห์เวห์กล่าวแก่หญิงนั้นว่า “เราจะให้เชื้อสายของเจ้าทวีมากขึ้นจนนับไม่ถ้วน”
ปฐก. 16:11 ทูตของพระยาห์เวห์กล่าวแก่นางอีกว่า “นี่แน่ะ เจ้ามีครรภ์แล้ว จะคลอดบุตรชาย และจะตั้งชื่อบุตรนั้นว่าอิชมาเอล เพราะพระยาห์เวห์ทรงรับฟังความทุกข์ร้อนของเจ้า
ปฐก. 16:12 บุตรนั้นจะมีนิสัยเหมือนลาป่า มือเขาจะต่อสู้คนทั้งปวง และมือคนทั้งปวงจะต่อสู้เขา เขาจะอาศัยตรงหน้าพี่น้องทั้งปวงของเขา”
ปฐก. 16:13 นางฮาการ์จึงเรียกพระนามพระยาห์เวห์ผู้ตรัสแก่นางว่า “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ผู้ทรงเห็นข้าพเจ้า” เพราะนางพูดว่า “ที่นี่ข้าพเจ้าได้เห็นพระองค์ ผู้ทรงเห็นข้าพเจ้าจริงๆ หรือ?”
ปฐก. 16:14 บ่อน้ำนั้นจึงมีชื่อว่าเบเออลาไฮรอย อยู่ระหว่างคาเดชกับเบเรด
วนฉ. 13:18 ทูตของพระยาห์เวห์บอกเขาว่า “ถามชื่อเราทำไม? ชื่อเราก็อัศจรรย์เกินความเข้าใจของเจ้า”
วนฉ. 13:19 มาโนอาห์ก็เอาลูกแพะกับธัญบูชามาถวายบนศิลาแด่พระยาห์เวห์ ผู้ทรงทำการอัศจรรย์ขณะที่มาโนอาห์และภรรยาเฝ้ามองอยู่
วนฉ. 13:20 และเมื่อเปลวไฟจากแท่นบูชาพลุ่งขึ้นไปสวรรค์ ทูตของพระยาห์เวห์ก็ขึ้นไปตามเปลวไฟแห่งแท่นบูชาขณะเมื่อมาโนอาห์และภรรยาคอยดูอยู่ และพวกเขาก็ซบหน้าลงถึงดิน
วนฉ. 13:21 ทูตของพระยาห์เวห์ไม่ปรากฏแก่มาโนอาห์หรือแก่ภรรยาของเขาอีกเลย แล้วมาโนอาห์จึงทราบว่าผู้นั้นเป็นทูตของพระยาห์เวห์
วนฉ. 13:22 และมาโนอาห์พูดกับภรรยาของตนว่า “เราคงจะตายแน่ๆ เพราะเราได้เห็นพระเจ้า”
วนฉ. 13:23 แต่ภรรยาบอกเขาว่า “ถ้าพระยาห์เวห์ทรงหมายจะฆ่าเราเสีย พระองค์คงจะไม่รับเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและธัญบูชาจากมือของเรา หรือทรงสำแดงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแก่เราหรือประกาศเรื่องเช่นนี้แก่เราในเวลานี้”
ขอบคุณพระเจ้าเรื่องของฑุตสววรค์ในตรงนี้หากพี่น้องตั้งใจแสวงหาดีๆๆจะพบว่าเวลาฑูตสวรรค์มาพบมนุษย์ไม่ว่าจะยุคโนอาห์หรือพบอับราฮาม หรือจะเป็นตอนมาพบพระนางมาเรียก็ตามจะพูดเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้พูดภาษาฑูตสวรรค์เลยสักครั้ง
ดังนั้นการที่มีคริสเตียนบางคนบางคณะว่าเราต้องพูดภาษาแปลกๆๆคือภาษาฑูตสวรรค์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ตรงตามหลักความจริงในพระคัมภีร์เลยทีเดียว
ขอพระเจ้าเปิดตาใจให้พี่น้องได้เห็นหลักความจริงในข้อนี้ด้วย เอเมน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น