เลข 10 ในพระคริสตธรรมคัมภีร์
ในพระคริสตธรรมคัมภีร์เลขแต่ล่ะเลขมีความหมายเกี่ยวพันธ์กันกับพระเจ้า และพี่น้องคริสเตียนเป็นอย่างมาก การอ่านพระคัมภีร์ต้องละเอียดและพิจารณาอย่างรอบครอบต้องไม่ตีความตามกำลังความคิดสติปัญญาของตัวเองทั้งสิ้นแต่ต้องพึ่งพาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ทั้งสิ้น
เลขสิบในพระคัมภีร์ใช้ในความหมายของการเป็นจำนวนสูงสุดหรือมากที่สุดนั่นเอง
ในสมัยยาโคบเองนั้นก็เคยกล่าวว่าลาบันนั้นเปลี่ยนค่าจ้างของยาโคบถึงสิบครั้งเลยเชียว
ปฐก. 31:7 บิดาของเจ้ายังบิดพลิ้วต่อฉัน และเปลี่ยนค่าจ้างของฉันเสียสิบครั้งแล้ว แต่พระเจ้าไม่ได้ทรงให้เขาทำร้ายฉัน
ต่อมาก็มาในสมัยยุคพระบัญญัติเมื่อโมเซหรือโมเสสรับพระบัญญัติสิบประการ โดยพระเจ้าพระราชทานพระบัญญัติสิบประการให้โมเสสในยุคที่นำพาชาวอิสสราเอลออกจากอียิปต์ไปสู่แผ่นดินงามคะนาอัน
อ่านในอพยพบทที่20ทั้งบท
การเดินทางนำพาคนอิสสราเอลเข้าไปในป่ากันดารก่อนเข้าสู่คะนาอันนั้นคนอิสราเอลได้ทำผิดต่อพระเจ้าหลายครั้งหลายครา กล่าวโทษพระเจ้าอย่างมากมานจนพระเจ้าพระราชทานโอกาสให้เห็นพระสิริของพระเจ้าเพื่อทดลองชาวอิสสราเอลที่ดื้อด้านถึงสิบครั้งสิบหนแล้วก็ตาม
กดว. 14:22 ทุกคนที่ได้เห็นพระสิริของเรา และเห็นการอัศจรรย์ทั้งหลายที่เราทำในอียิปต์และในถิ่นทุรกันดาร แต่ยังทดลองเราถึงสิบครั้ง ทั้งไม่ฟังเสียงของเรา
แม้กระทั้งชาวอิสสราเอลก็ได้แจ้งให้เนหะย์ถึง10ครั้งว่าจะมีศัตรูมาทำร้าย
นหม. 4:12 เมื่อพวกยิวที่อยู่ใกล้เขาทั้งหลายมา ก็ได้บอกเราตั้งสิบครั้งว่า “พวกเขาจะลุกขึ้นมาต่อสู้เราจากทุกแห่งที่พวกเขาอยู่”
ที่ได้ยกตัวอย่างมานั้นล้วนมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์เดิม
ทีนี้มาดูในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ใหม่ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือเรื่องอุปมาเรื่องหญิงสาวพรหมจารี10คน ที่รอคอยเจ้าบ่าวซึ่งในที่นี้หมายถึงองค์พระเยซูคริสต์ที่จะเสด็จกลับมารับเจ้าสาวคือผู้เชื่อที่สุกงอมเป็นผู้เชื่อในพระเจ้าที่ดำเนินชีวิตติดสนิทดำเนินไปกับพระวิญญาณบริสุทธิ์
มธ. 25:1 “เวลานั้น แผ่นดินสวรรค์จะเปรียบเหมือนหญิงพรหมจารีสิบคนถือตะเกียงของตน ออกไปรับเจ้าบ่าว
มธ. 25:2 เป็นคนโง่ห้าคน และเป็นคนมีปัญญาห้าคน
มธ. 25:3 คนโง่เหล่านั้นเอาตะเกียงของตนไปแต่ไม่ได้เอาน้ำมันไปด้วย
มธ. 25:4 คนที่มีปัญญานั้นเอาน้ำมันใส่ขวดไปกับตะเกียงของตนด้วย
มธ. 25:5 เมื่อเจ้าบ่าวมาช้า ก็พากันง่วงเหงาและหลับไป
มธ. 25:6 เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนก็มีเสียงร้องว่า ‘เจ้าบ่าวมาแล้ว จงออกมารับท่านเถิด’
มธ. 25:7 หญิงพรหมจารีทั้งหมดนั้นก็ลุกขึ้นตกแต่งตะเกียงของตน
มธ. 25:8 บรรดาคนโง่ก็พูดกับพวกที่มีปัญญาว่า ‘ขอแบ่งน้ำมันของพวกท่านบ้าง เพราะตะเกียงของเราจวนจะดับอยู่แล้ว’
มธ. 25:9 พวกที่มีปัญญาจึงตอบว่า ‘น่ากลัวน้ำมันจะไม่พอสำหรับเราและพวกท่าน จงไปหาคนขาย แล้วซื้อสำหรับตัวเองจะดีกว่า’
มธ. 25:10 ระหว่างที่เขาทั้งหลายออกไปซื้อ เจ้าบ่าวก็มาถึง พวกที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วก็ไปกับท่านในงานสมรส แล้วประตูก็ปิด
มธ. 25:11 ภายหลังหญิงพรหมจารีอีกห้าคนก็มาร้องว่า ‘ท่านเจ้าคะ ขอเปิดให้เราด้วย’
มธ. 25:12 แต่ท่านตอบว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า เราไม่รู้จักท่าน’
มธ. 25:13 เพราะฉะนั้น จงเฝ้าระวังอยู่ เพราะพวกท่านไม่รู้กำหนดวันหรือเวลานั้น
และการทนทุกข์ของคริสตจักรในสเมอร์นาอูมที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์เล่มสุดท้ายของพระคัมภีร์ใหม่
วว. 2:10 อย่ากลัวการทนทุกข์ที่เจ้าจะได้รับนั้น นี่แน่ะ มารจะขังพวกเจ้าบางคนไว้ในคุกเพื่อทดลองพวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะได้รับความยากลำบากถึงสิบวัน แต่เจ้าจงซื่อสัตย์จวบจนวันตาย และเราจะมอบมงกุฎแห่งชีวิตให้แก่เจ้า
พี่น้องที่รักในพระคริสต์ทั้งหมดนี้คือหลักความจริงในพระคัมภีร์ที่จะต้องไปตรีความตามบริบทที่มาจากความคิดเห็นที่มาจากสมองแห่งเนื้อหนังของตัวเอง การแสวงหาพระคำหลักความจริงพึงระลึกเสมอว่าพี่น้องคือผู้ยากจนฝ่ายวิญญาณ ขอพระวิญญาณนั้นทรงพระราชทานความเข้าใจให้แก่พี่น้องในพระคริสต์ เอเมน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น