ยุคพระบัญญัติสำหรับชนชาติอิสราเอลเท่านั้นฟันงธง
อพย. 19:3 โมเสสขึ้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้า พระยาห์เวห์ตรัสกับท่านจากภูเขานั้นว่า “จงบอกวงศ์วานยาโคบและชนชาติอิสราเอลดังนี้ว่า
อพย. 19:4 พวกเจ้าได้เห็นสิ่งที่เราทำกับคนอียิปต์แล้ว และที่เราชูพวกเจ้าขึ้นดุจดังด้วยปีกนกอินทรี เพื่อนำพวกเจ้ามาถึงเรา
อพย. 19:5 ฉะนั้น ถ้าพวกเจ้าฟังเสียงเราจริงๆ และรักษาพันธสัญญาของเราไว้ พวกเจ้าจะเป็นของล้ำค่าของเราที่เราเลือกสรรจากท่ามกลางชนชาติทั้งปวง เพราะแผ่นดินทั้งสิ้นเป็นของเรา
อพย. 19:6 พวกเจ้าจะเป็นอาณาจักรปุโรหิต และเป็นชนชาติบริสุทธิ์สำหรับเรา นี่เป็นถ้อยคำที่เจ้าต้องบอกกับคนอิสราเอล”
ยุคพระบัญญัคินั้นเป็นการนำมานุษย์ไปหาพระเจ้าโดยมีคนกลางคือปุโรหิตเป็นผู้ทำพิธีการในสถานที่บริสุทธิ์ที่สุด ยุคนั้นเริ่มตั้งแต่โมเซเริ่มเข้าเฝ้าพระเจ้าพระยาเวห์เพื่อรับพระราชทานพระบัญญัติสิบประการที่เป็นข้อบังคับให้มนุษย์ต้องกระทำตามสิ่งที่พระยาเวห์กำหนดไว้ให้ชนชาติอิสราเอลต้องกระทำตามหากฝ่าฝืนพระเจ้าจะลงโทษถึงตาย
หากพี่น้องได้อ่านในพระธรรมอพยพจนถึงพระบัญยัตินั้นพี่น้องจะพบว่าแม้แต่ตัวอาโรนเองก็ไม่รอดจากความตายที่พระเจ้ากำหนดไว้พระเจ้าได้ลงโทษอาโรนให้เสียชีวิตอย่างทันทีที่ภูเขาที่พระเจ้าได้กำหนดไว้แล้วให้โมเซเป็นคนพาไปเฝ้าพระเจ้านั้นแล้วพระเจ้าก็ตั้งบุตรของอาโรนมามาทำหน้าที่แทนอาโรนสืบทอดต่อตำแหน่งปุโรหิต ความผิดฐานทำรูปวัวทองคำทำตามคำเรียกร้องของพี่น้องชาวอิสราเอลนั้นเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้าที่บัญยั๖ิไว้ ดังนั้นในยุคพระบัญญัตินั้น การผิดต่อพระเจ้ามีโทษถึงตาย การจะไถ่บาปแต่ละครั้งต้องผ่านปูโรหิตใหญ่เพียงผู้เดียวเท่านั้น เรียกได้ว่านำมานุษย์ไปหาพระเจ้าผ่านคนกลางโดยตัวมนุษย์เองนั้นไปหาโดยตรงไม่ได้เลย อีกอย่างมนุษย์ในที่นี้คือชนชาติอิสราเอลเท่านั้นไม่เกี่ยวกับชนชาติอื่นใดทั้งสิ้นไม่รวมแม้กระทั้งคนไทยคนเอเซียอย่างเราเลย เรียกง่ายๆๆว่าเราเป็นส่วนเกินในชนชาติที่พระเจ้ากำหนดไว้ว่าเป็นเผ่าพันธ์ที่พระเจ้าได้ทรงให้สัญญาและอวยพระพรไว้กับอับราฮามนั่นเอง
ยุคพระบัญญัตินี้อย่าสับสนว่าเป็นแก่คนทุกชาติทุกภาษาไม่เลยระบุชัดว่าชนชาติที่พระเจ้าเลือกไว้เพียงชนชาติเดียวที่พระเจ้าให้สัญญาและอวยพระพรไว้กับอับราฮาม ดังนั้นเมื่อพี่น้องอ่านพระคัมภีร์ยุคนี้อย่าได้สับสนน้ำเรื่องในยุคพระบัญญัติมาตีความว่าเกี่ยวกับยุคของพี่น้องที่เป็นคริสเตียนนี้ไม่เลย พวกยิวทุกวันนี้เขาก็ยังนับถือแค่พระยาเวห์พระองค์เดียวเท่านั้นเขามั่นใจว่ามีพระเจ้าองค์เดียวคือพระยยาเวห์ และการอวยพระพรใดๆๆก็เป็นแค่ชนชาติอิสราเอลเท่านั้นตามคำสัญญาของพระยาเวห์
มีคริสเตียนอาอาจารย์หลายคนสับสนเอาความรู้ในยุคพระบัญยัติมาตีความอย่างสับสนหลายเรื่องเพื่อเขาทางตัวเองโดยเฉพาะเรื่องการมอบถวายทรัพย์นี่สำคัญมากทำไปเพราะวงเล็บบอกตามตรงๆๆเพื่อความอยู่รอดของตัวอาจารย์เองที่ต้องเลี้ยงตัวเองให้รอดไปเดือนๆๆหนึ่งเขียนเรื่องจริงแบบนี้นี้อย่าว่ากันนี่คือคำสอนสอนกันในโรงเรียนพระคริสตธรรมที่ถ่ายทอดกันมา ไม่งั้นคริสตจักรแม่จะไม่ส่งเงินมาสนับสนุนอีกต่อไปหากไม่สอนแบบนี้ ยิ่งบอกว่าต้องซื้อสัตย์ในการมอบถวายนั้นพระเจ้าไม่เจ้าสอนให้คนอิสราเอลถวายจริงจากหนึ่งในสิบของของที่หามาได้จากการเพราะปลูกจากการผลิตได้ไม่ใช่จากรายได้ประจำเดือนที่เดียวนี้เอามาใช้ในวงการคริสเตียนนั่นสับสนแล้ว ยุคพระบัญญัติหมดสิ้นลงเมือพระเยซุคริสต์ตายแล้วเป็นขึ้นมาใหม่นั้นพระเยซูคริสต์ได้เริ่มต้นยุคใหม่เรียกว่ายุคพระคุณและคริสจักร ดังนั้นอ่านพระคัมภีร์เดิมเพื่อเป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่าจะมีพระฆาซีอามาบังเกิดคือพระเยซูคริสต์
ในยุคพระบัญยัติจะมีการพยากรณืการมหัศจรรย์มากมายจนพี่น้องที่อ่านสับสนว่าจะเกี่ยวกับคริสเตียนเอามาตีความว่าพวกคริสเตียนจะได้รับอำนาจพิเศษมาจากพระเจ้าเที่ยวไปพยากรณืมั่วไปหมด หรือไปทำการอัศจรรย์มั่วไปหมด สิ่งนี้คือความไม่เที่ยงแท้จริงๆๆที่แม้แต่ยุคพระบัญญัติคนอิสราเอลจำนวนมากถึงได้ตายในป่ากันดารมากมายไม่มีสิทธิ์เข้าแผ่นดินงามคะนาอันเพราะความเห็นผิดมากมาย
เรื่องการพยากรณ์ หรือเป็นผู้เผยพระวจนะนั้น หรือเป็นผู้ทำการอัศจรรย์รักษาโรคนั้นไม่ใช่ทุกคนทำได้หมดไม่ใช่เชื่อพระเจ้าทำได้หมด อ่านพระคัมภีร์ดีๆๆพระเจ้าพระราชทานให้พี่น้องบางคนเท่านั้นที่ทำได้เหมือนเรื่องการเป็นผู้รับใช้พระเจ้านั้นไม่ใช่เราเป็นผู้เลือกรับใช้พระเจ้าแต่พระเจ้านั้นเป็นคนเลือกว่าใครจะเป็นผู้รับใช้พระเจ้า ใครจะโดนพระเจ้าให้เลิกรับใช้กรณีนี้ดูอาโรน กับโมเซเป็นตัวอย่าง อาโรนเป็นปากแทนโมเซเพราะพระเจ้าเลือก แต่สุดท้ายตัวโมเซก็ต้องทำหมดทุกหน้าที่เมื่อเข้มแข็งพอจากการึกฝนมาหลายสิบปี พอหมดยุดโมเซพระเจ้าเลือกโยโชวามาเป็นผู้รับใช้พระเจ้าแทนโมเซตรงนี้เห็นชัดใหมว่าพระเจ้าเลือกคนมาเป็นผู้รับใช้พระเจ้า ไม่ใช่คนเองเลือกจะรับใช้พระเจ้า
การอ่านพระคริสตธรรมคัมภีร์เดิมเพื่อให้พี่น้องเห็นความเป็นมาของความบาปที่มนุษย์ชาติก่อขึ้นไว้และความเป็นมาของพระคริสต์ว่าสืบเชื้อสายมาจากชนชาติไหน
แต่ไม่ใช่ว่ายกเอาข้อความในยุคพระบัญญัติมาปฎิบัติหรือมาทำตามทั้งหมดเลยที่ทำกันอยู่ในทุกวันนี้ผิดพลาดมากมาย
ขอพระเจ้าเปิดตาใจพี่น้องทั้งหลายว่าบัดนี้พี่น้องอยู่ในยุคพระคุณยุคคริสตจักรแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นมาจากพระคุณของพระเยซูคริสต์ทั้งนั้น คริสตจักรก็คือตัวของพี่น้องทั้งหลายนั่นเองเพราะตัวพี่น้องเองก็คือวิหารของพระเจ้าเป็นที่สถิตอยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ทันที่ที่พี่น้องคริสเตียนทั้งหลายรับเชื่อพระเจ้าก็ตรีเอกภาพเข้าสนิทอยู่ในวิญญาณของพี่น้องทั้งหลายแล้ว
สิ่งเดียวที่พี่น้องทำได้คือการติดสนิทในพระคริสต์ทุกวันทุกเวลาดำเนินชีวิตในวิญญาณเป็นมนุษย์ฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าคือพระวิญญาณบริสทธิ์นำพาตัวของพี่น้องตลอดเวลา เอเมน
ตรงนี้ขอฟังธงว่ายุคพระบัญญัติสำหรับคนอิสราเอลเท่านั้น เอเมน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น