วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

หลักการเข้าสนิทกับพระคริสต์ 1

หลักการเข้าสนิทกับพระคริสต์ 1
1.ไม่ว่าเบื้อหน้าหรือเบื้องหลังชีิวตของพี่น้องจะเป็นอะไรมาก่อนก็ตาม วันนี้พี่น้องต้องกลับใจใหม่หันสู่พระเจ้าและเป็นพลไพล่ของพระเจ้าอย่างแท้จริง
2.พี่น้องต้องติดสนิทกับบุคคลที่เหมาะสมและถุกต้อง กรณีนี้หมายถึงผู้ที่ดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณ
3.พี่น้องต้องบังเกิดผลอย่างปกติ
การที่พี่น้องต้องมีความจำเป็นถึงหลักการเข้าสนิทในพระคริสต์นั้นเพื่อเป็นการเติบโตขึ้นในชีวิตฝ่ายวิญญาณในพระคริสต์ การเชื่อในพระเจ้านั้นไม่ใช่แค่เชื่อแล้วรอดได้รับชีวิตนิรันดร์เพียงเท่านั้นก็จบนั่นหากมองแบบผิวเผินแล้วน่าจะพอแล้ว
แต่อย่าลืมว่าเมื่อพี่น้องได้เริ่มเชื่อในพระคริสต์นั้นพี่น้องยังเป็นเพียงทารกที่พึ่งเริ่มคลอดมามีชีวิตใหม่ในองค์พระเยซูคริสต์ 
ก้าวต่อไปในความเชื่อนั้นพี่น้องต้องเติบโตในพระคริสต์ เป็นที่น่าเสียดายที่ทุกวันนี้คริสเตียนส่วนมากหยุดแค่เชื่อเท่านั้นรับบัพติสมาแล้วก็จบได้รับความรอดทางวิญญาณก็พอแล้ว การดำเนินชีวิตในพระคริสต์ก็ขอแบบไปทีเป็นพิธีกรรมเป็นประเพณีถึงเพียงวันอาทิตย์มาร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้าในเรื่องเนื้อหนังล้วนๆๆ แล้วก็ฟังเทศน์จากอาจารย์ประจำโบถ์ที่คริสตจักรนั้นๆๆจัดโปรแกรมไว้ให้เสร็จแล้วก็รับประทานอาหารร่วมกันสองชั่วโมงเศษๆจบพิธีการกับบ้านไปเที่ยวตามห้างดูหนังฟังเพลงใช้ชีวิตเหมือนชาวโลกต่อไปเป็นเช่นนี้วันแล้ววันเล่า นี่คือคริสเตียนทารกที่ไม่มีการพัฒนาการเติบโตในวิญญาณอย่างแท้จริง
การเติบโตในพระคริสนั้นพี่น้องไม่เพียงรอดทางวิญญาณเท่านั้นจำเป็นต้องรอดทั้งจิตรอดด้วยเช่นกัน เพราะกายรอดแล้ววิญญาณรอดแล้วแต่จิตยังไม่รอดนั่นเอง
ชีวิตฝ่ายจิตเป็นทัศนะภายในคือการเสียสละของจิต
ลก. 9:23 พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาทุกคนว่า “ถ้าใครต้องการจะมาติดตามเรา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกทุกวันและตามเรามา
ลก. 9:24 เพราะว่าใครต้องการจะเอาชีวิตรอด คนนั้นจะเสียชีวิต แต่ใครยอมเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เรา คนนั้นจะได้ชีวิตรอด
มธ. 16:24 พระเยซูจึงตรัสกับบรรดาสาวกของพระองค์ว่า “ถ้าใครต้องการจะติดตามเรา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกและตามเรามา
มธ. 16:25 เพราะว่าใครต้องการจะเอาชีวิตรอด คนนั้นจะเสียชีวิต แต่ใครยอมเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เรา คนนั้นจะได้ชีวิตรอด
มก. 8:34 พระองค์จึงทรงเรียกฝูงชนกับพวกสาวกให้เข้ามา แล้วตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้าใครต้องการจะตามเรามา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกและตามเรามา
มก. 8:35 เพราะว่าใครต้องการจะเอาชีวิตรอด คนนั้นจะเสียชีวิต แต่ใครยอมเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐ คนนั้นจะได้ชีวิตรอด
ความรอดของจิดในยุคนี้ทำให้พี่น้องไม่ได้รับความรอดของจิตในยุคอาณาจักรพันปี
ในวันนี้พี่น้องต้องทำตามที่พระเยซูคริสต์ได้บอกแก่พี่น้องทั้งหลายเมื่อครั้งยังที่พระองค์ยังดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้ตามพระคำของพระเจ้าที่บันทึกไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ใหม่ว่าจะต้องขจัดตัวตนและความรอดของจิตในยุคนี้สูญเสียชีวิตฝ่ายจิตในยุคนี้
ดังนั้นชีวิตฝ่ายจิตของพี่น้องต้องผ่านการช่วยจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
นั่นคือการที่พี่น้องทั้งหลายจะต้องกำจัดความรู้สึกทั้งเจ็ดของตัวพี่น้องเอง
และพี่น้องต้องขจัดตัวตนของพี่น้องเองนั่นคือขจัดความใคร่ทั้งหก
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนลึกแห่งการงานของไม้กางเขน
ที่พี่น้องทั้งหลายต้องสูญเสียชีวิตฝ่ายจิตในวันนี้เพื่อได้รับความรอดของจิตในวันหน้าที่อาณาจักรพันปีจะมาถึงในยุคที่สี่ยุคสุดท้ายเพื่อสำเร็จสุกงอมเป็นผู้มีชัยชนะในกรุงเยรูซาเล็มใหม่
อฟ. 3:17 ให้พระคริสต์ประทับในใจของท่านโดยทางความเชื่อ ให้ท่านได้หยั่งรากและตั้งมั่นอยู่ในความรัก
ตรงคำว่าใจก็คือจิตนั่นเอง หากพี่น้องมีความรักชอบยังหลงไหลต่อสิ่งของฝ่ายเนื้อหนังอยู่นั่นคือความรอดของจิตในยุคนี้ สิ่งนี้จะยับยั้งการเติบโตของชีวิตฝ่ายวิญญาณเพราะพี่น้องยังมีความรักชอบของจิตนั่นเอง
ดังนั้นหากต้องการเติบโตในวิญญาณติดสนิทในพระคริสต์ พี่น้องจำเป็นต้องสูญเสียความรักชอบของชีวิตฝ่ายจิตในโลกนี้เสียก่อน เพื่อที่พี่น้องจะได้รับความรอดของจิตในยุคอาณาจักรพันปีนั่นเอง ถ้าไม่ฝึกฝนให้สูญเสียชีวิต่ายจิตในวันนี้ เมื่อยุคอาณาจักรพันปีมาถึงพี่น้องเองก็จะไม่ได้รับความรอดในชีวิตฝ่ายจิตในยุคอาณาจักรพันปี แต่จะสูญเสียชีวิตฝ่ายจิตในยุคนั้นนำมาซึ่งการต้องไปฝึกฝนขบเขี้ยวเคียวฟันอยู่ในยุคพันปีที่นานแสนนาน
ความรอดของพี่น้องเองในวันนี้ก็คือความรอดของวิญญาณนั่นเอง กรณีนี้เหมือนที่ยุคโมเสสนำพาประชากรอิสราเอลผ่านทำเลแดงนั่นคือความรอดครั้งแรกคือชาวอิสราเอลรอดในวิญญาณออกมาจากอียิปต์เปรียบเหมือนละทิ้งการดำเนินชีวิตฝ่ายโลกมาผ่านมารอดทางทะลแดงแต่ชีวิตยังคงดำเนินต่อปในป่ากันดารอีกสี่สิบปีนั่นก็คือตัวของพี่น้องเองก็ต้องดำเนินชีวิตติดสนิทในพระคริสต์ไปอีกนานจนกว่าชีวิตจะสุกงอม ถึงจะก้าวข้ามแม่น้ำจอร์แดนปได้นั่นคือความรอดของจิตเพื่อเข้าสูแผ่นดินงามคะนาอัน
การข้ามผ่านแม่น้ำจอร์แดนเพื่อเข้าสู่แผ่นดินงามคะนาอันนั้นมีชาวอิสราเอลเหลือรอดไม่กี่คนในยุคนั้นผู้นำก็คือโยโชวกับสหายไม่กี่คนรวมถึงประชากรชาวอิสราเอลจำนวนน้อยที่รอดพ้นจากชีวิตในป่ากันดารมาได้นอกนั้นเสียชีวิตหมดแม้แต่โมเสส อาโรนก็ไม่รอดเลยสักคนเดียว นี่คือเรื่องราวเบื้องต้นในการดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณของพี่น้องที่จะเข้าติดสนิทในพระคริสต์ เอเมน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น