วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

พระพรของพระเจ้า

พระพรของพระเจ้า
พี่น้องต้องเป็นอย่างอับราฮัมลืมทุกสิ่งที่ผ่านมา
พี่น้องต้องละทิ้งสิ่งที่มีอยู่และเป็นอยู่เสีย
วันนี้พี่น้องต้องเชื่อในพระคริสต์เป็นแผ่นดินงาม
การดำเนินและการเป็นอยู่ของพี่น้อง
ต้องติดตามความเชื่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้น
พี่น้องจึงเรียกได้ว่าเป็นทายาทตามพระสัญญาของพระเจ้า
พี่น้องจึงเป็นผู้ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามพระสัญญา
พี่น้องจึงสามารถมีส่วนในพระคริสต์
นี่ก็คือพระพรของพระเจ้า เอเมน

ความเชื่อในพระคริสต์

ความเชื่อในพระเยซูคริสต์คือ
การปฎิเสธตัวเองและต้อนรับพระคริสต์เป็นทุกสิ่งของพี่น้อง
ในสายพระเนตรของพระเจ้าความเชื่อเช่นนี้คือความชอบธรรม
พี่น้องไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย
ไม่ต้องคิดที่จะทำอะไรทั้งนั้น
มีเพียงสิ่งเดียวคือเชื่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้นเอง.

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

สิ่งล้ำเลิศในจักรวาล

สิ่งล้ำเลิศในจักรวาล
ฮบ. 1:1 นานมาแล้วพระเจ้าตรัสกับบรรพบุรุษของเราหลายครั้ง และหลายวิธีผ่านทางพวกผู้เผยพระวจนะ
ฮบ. 1:2 แต่ในวาระสุดท้ายนี้พระองค์ตรัสกับเราทางพระบุตร ผู้ที่พระองค์ทรงตั้งให้เป็นทายาทรับสิ่งทั้งปวง พระเจ้าทรงสร้างจักรวาลทางพระบุตร
การตรัสของพระเจ้าเป็นสิ่งล้ำเลิศในจักรวาล และสิ่งที่ล้ำสิ่งแรกก็คือตัวของพระเจ้าเอง
ทุกวันนี้พระเจ้าตรัสแก่พี่น้องทั้งหลายผ่านทางพระบุตรของพระองค์คือพระเยซูคริสต์เจ้า ไม่ได้ตรัสด้วยวิธีอื่นหรือโดยผ่านผู้พยากรณ์
พระเจ้าตรัสผ่านทางพระบุตร พะรเจ้ามีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น พระนามของพระเจ้าคือพระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์
การตรัสผ่านตัวบุคคลทางพระบุตรคือพระเยซูคริสต์ ในพันธสัญญาใหม่การตรัสของพระเจ้าเป็นไปโดยวิธีการที่พระเจ้ากลายเป็นมนุษย์คือองค์พระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้านั่นเอง

ข้อบกพร่องของคริสเตียน

ข้อบกพร่องของคริสเตียน
มธ. 5:3 “บุคคลผู้ใด รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา
คริสเตียนมีข้อบกพร่อง 2ประการ คือ
1.ไม่รู้จักตัวเอง
2.ไม่รู้จักความอุดมสมบูรณ์ของพระเจ้า
ถ้าคริสเตียนรู้จักสิ่งบกพร่องสองประการนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าไม่รู้ความบกพร่องสองประการนี้แล้ว ก็จะเป็นคริสเตียนที่พ่ายแพ้ในที่สุด
การดำเนินชีวิตคริสเตียนจุดบกพร่องทั้งหมดล้วนไม่ถวายสง่าราศีให้พระเจ้า และเป็นสาเหตุแห่งความพ่ายแพ้ทั้งหมดของชีวิตคริสเตียน
สิ่งที่พระเจ้าต้องการสำหรับคริสเตียนในวันนี้คือ ให้รู้จักตัวเอง ให้รู้จักพระเจ้าว่าเป็นอย่างไร
ถ้าในวันนี้คริสเตียนทั้งหลายในวันนี้รู้จักตัวเองรู้จักพระเจ้าแล้ว ปัญหาการดำเนินชีวิต่ายวิญญาณของคริสเตียนก็สามารถแก้ไขได้นั่นเอง เอเมน

สรรพสิ่งสารพัดในโลกนี้ถูกสร้างโดยพระเจ้า

สรรพสิ่งสารพัดสร้างขึ้นโดยพระเจ้า
ยน. 1:3 พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ
คส. 1:16 เพราะว่าโดยพระองค์ทุกสิ่งได้รับการทรงสร้างขึ้น ทั้งสิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าและบนแผ่นดินโลก ทั้งสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นบัลลังก์แห่งพวกภูตผี หรือพวกภูตผีที่ปกครอง หรือพวกภูตผีที่ครอบครอง หรือพวกภูตผีที่มีอำนาจ ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์
พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ทรงสร้างสรรพสิ่ง เป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง สิ่งสารพัดทั้งปวงล้วนถูกสร้างขึ้นจากพระเจ้าทั้งสิ้น
พี่น้องจะมองเห็นว่า พระเจ้าทรงมีพระราชดำริแห่งการทรงสร้างของพระองค์นั้นคือ สรรพสิ่งทั้งปวงนั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยพระเจ้าและเพื่อพระเจ้า เอเมน.

คริสเตียนคือใคร

คริสเตียนคือใคร
ยน. 10:10 ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลักและฆ่าและทำลายเสีย เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะได้ชีวิต และจะได้อย่างครบบริบูรณ์
พี่น้องหลายคนคิดว่า การที่ได้รับบัพติสมาตั้งแต่เด็กไปโบถ์ นมัสการอยู่เสมอ มีพระคัมภีร์ อธิษฐาน ร้องเพลงสรรเสริญได้คล่อง เอมนเสมอเมื่อพี่น้องอธิษฐาน รู้จักเรื่องในพระคัมภีร์เป็นอย่างดี นี่ก็เป็นคริสเตียนแล้ว
แท้ที่จริงใช่หรือไม่ ในพระคัมภีร์บอกว่าการกระทำภายนอกนั้นไม่ใช่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่สอนกันทางภายนอก หรือสิ่งที่ได้เรียนรู้ทางภายนอกนั้นล้วนไม่ใช่
คริสเตียนต้องเป็นการกระทำทางภายใน มีชีวิตของพระเจ้าอยู่ภายใน การเป็นคริสเตียนจึงเกี่ยวข้องกับชีวิตอย่างแน่นอน ไม่ใช่การกระทำจากภายนอกแต่เป็นการกระทำจากภายใน
สิ่งที่พระคริสต์ต้องการจากพี่น้องคริสเตียนในวันนี้คือชีวิตภายใน ไม่ใช่ศาสนาภายนอก ไม่ใช่มาจากความคิด แต่เป็นการเปิดเผยจากภายใน และเป็นศาสนาแห่งชีวิต เอเมน

คำสอนของอัครสาวก

คำสอนของอัครสาวก
กจ. 2:42 เขาทั้งหลายอุทิศตัวเพื่อฟังคำสอนของบรรดาอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรม รวมทั้งหักขนมปังและอธิษฐาน
พระธรรมกิจการแสดงให้เพี่น้องเห็นว่ามีคนได้รับความรอดถึงสามพันคนในวันเพนเทคอสได้ร่วมกันปฎิบัติตามคำสอนต่อเนื่องในมาทั้งในการสามัคคีธรรม หักขนมปัง และการอธิษฐาน
มีคริสเตียนจำนวนมากที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับคำสอนของพวกอัครสาวกและไม่เคยรู้ว่ามีคำสอนของอัครสาวกอยู่ในพระธรรมกิจการด้วยเช่นกัน
และมีคริสเตียนจำนวนน้อยมากที่สามารถจะบอกพี่น้องได้ว่ามีคำสอนของอัครสาวก และการสามัคคีธรรมของอัครสาวกเป็นเช่นไร
เพราะคำสอนและการสามัคคีธรรมของอัครสาวกได้ถูกละเลยไปหมดแล้ว
ศาสนาคริสต์เกือบทั้งหมดในปัจจุบันนี้จึงไม่มีความรู้ในเรื่องคำสอนของอัครสาวก และไม่เคนรู้ว่ามีคำสอนเช่นนี้
หลังจากยุคมืดกว่าพันห้าร้อยปีได้ศาสนาคริสต์ได้ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของคาทอลิคจนมาถึงยุคการเปลี่ยนแปลงของมารติน ลูเธอร์์ แม้จะมีการแยกตัวออกมาแต่ตัวมารติน ลูเธอร์เองก็ยังคงนำหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นประเพณีของคาทอลิคติดตามมาใช้
ในคำศัพท์ คำสอนของอัครสาวกนั้น คำว่าอัครสาวกเป็นพหูพจน์ แต่คำสอนเป็นเอกพจน์
คำสอนของอัครสากก็คือคำสอนของพวกอัครสาวก ไม่ใช่คำสอนของเปโตร เปาโล ยอห์น แต่รวมคำสอนของอัครสาวกคนอื่นๆๆด้วย
คำสอนของอัครสาวกคือ การตรัสของพระเจ้าในพันธสัญญาใหม่ตลอดทั้งเล่มคือคำสอนของอัครสาวก 
ไม่ว่าจะเรื่องการล้างเท้า การรับบัพติสมาที่ปรากฎอยู่ในคำสอนนี้ไม่ใช่เป็นเพียงหลักพื้นฐาน สาระสำคัญ ศูนย์กลาง หรือหลักการเบื้องต้นเท่านั้น

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

ความหมายของการเชื่อคือการเข้าสนิทกับพระคริสต์

ความหมายของการเชื่อคือการเข้าสนิทกับพระคริสต์
พี่น้องทั้งหลายวันนี้ท่านเป็นอิสราเอลแท้และก็เป็นบุตรอับราฮัมที่แท้จริงด้วย เพราะพี่น้องได้เชื่อในพระเยซูคริสต์
ความหมายของการเชื่อพระเจ้านั้นคือการที่พี่น้องได้เข้าสนิทในพระคริสต์
อับราฮัมนั้นได้ถูกเรียกออกมาจากมนุษย์ที่ตกต่ำแล้วได้เข้าสนิทในพระคริสต์
ในขณะเดียวกันพี่น้องทั้งหลายวันนี้ท่านเป็นบุตรหลานของอับราฮัมก็เป็นคนของพระคริสต์เช่นกันและได้เข้าสนิทในพระคริสต์ด้วยแล้ว เอเมน
เพื่อการที่พี่น้องจะเข้าสนิทในพระคริสต์นั้นพี่น้องจำต้องปฎิเสธตัวเองและต้อนรับพระคริสต์เป็นทุกสิ่งของพี่น้อง
กรณี้นี้คือพี่น้องได้เชื่อในพระเยซูคริสต์ ดังนั้นในสายพระเนตรของพระเจ้าแล้วความเชื่อก็คือความชอบธรรมนั่นเอง
วันนี้พี่น้องไม่ต้องทำอะไรไม่ต้องคิดที่จะอะไรเลย พี่น้องเพียงเชื่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้น เอเมน

พระคริสต์ทรงเป็นอยู่ในข้าพเจ้า

พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตเป็นอยู่ในข้าพเจ้า
ปฐก. 15:2 อับรามทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย พระองค์จะทรงให้อะไรแก่ข้าพระองค์? ด้วยว่าข้าพระองค์ยังไม่มีบุตรเลย และเอลีเอเซอร์ชาวเมืองดามัสกัสคนนี้ จะเป็นทายาทของข้าพระองค์”
ปฐก. 15:3 อับรามทูลอีกว่า “ขอพระองค์ทรงดู พระองค์ไม่ได้ทรงให้บุตรแก่ข้าพระองค์ แล้วขอทรงดู คนที่เกิดในบ้านของข้าพระองค์ก็จะเป็นผู้รับมรดกของข้าพระองค์”
ปฐก. 15:4 เวลานั้นพระดำรัสของพระยาห์เวห์มาถึงอับรามว่า “คนนี้จะไม่ได้เป็นผู้รับมรดกของเจ้า แต่บุตรชายที่เกิดจากเจ้าจะเป็นผู้รับมรดกของเจ้า”
ไม่มีสักคนเดียวที่พี่น้องจะพึ่งและไว้วางใจได้เลย
พี่น้องต้องวางใจในพระเจ้าเท่านั้น อย่าได้เชื่อพึ่งไว้วางใจในทุกสิ่งที่พี่น้องมีอยู่ด้วยชีวิตความสามารถธรรมชาติของตัวเอง
พี่น้องต้องพึ่งในพระเจ้าดำเนินชีวิตด้วยการพึ่งพิงพระเจ้าในการเป็นอยู่
พี่น้องต้องจำไว้ว่าไม่ใช่ข้าพเจ้าเป็นอยู่ แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตเป็นอยู่ในข้าพเจ้า เอเมน

การดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อในพระคริสต์

การดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ
กท. 2:20 ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า
ในกาลาเทียบทที่สองข้องยี่สิบได้ให้ความหมายการดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ไม่ใช่ตัวของพี่น้องเองแต่เป็นตัวของพระคริสต์ที่อยู่ภายใน
พี่น้องต้องละทิ้งธรรมชาติตัวตนเก่ามนุษย์เก่าที่ตกต่ำที่ได้รับเป็นมรดกบาปสืบต่อเนื่องมาจากบรรพบุรุษอาดามนั่นเอง
วันนนี้พี่น้องต้องร่วมมือกับพระเยซูคริสต์ในการฝังและตรึงชีวิตเก่าไว้กับพระเยซูคริสต์ ร่วมตายเป็นขึ้นมากับพระเยซูคริสต์ มีชีวิตพระคริสต์อยู่ภายในวิญญาณพี่น้อง
พี่น้องที่รักในพระคริสต์วันนี้ท่านเป็นบุตรอับราฮัมเป็นชาวอิสราเอลแท้ของพระคริสตพี่น้องได้ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อหลุดพ้นจากสิ่งทรงสร้างเก่าทั้งหมด ละทิ้งความสามารถธรรมชาติของตัวเองที่ทำได้ และต้องปฎิเสธทุกสิ่งที่เป็นความรักชอบธรรมชาติของเนื้อหนังตัวตนของมนุษย์เก่าที่ตกต่ำ เรื่องเช่นนี้เป็นสิ่งที่พี่น้องกระทำด้วยตัวเองได้ยาก แต่สามารถทำได้ด้วยการพึ่งพึงในพระคุณของพระคริสต์ เอเมน

ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ

ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ
ฮบ. 11:8 โดยความเชื่อ เมื่ออับราฮัมได้รับการทรงเรียกให้ออกเดินทางไปยังที่ที่ท่านจะรับเป็นมรดก ท่านก็เชื่อฟังและเดินทางออกไปโดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน
ฮบ. 11:9 โดยความเชื่อ ท่านได้อาศัยในแผ่นดินแห่งพระสัญญาเหมือนเป็นคนต่างด้าว โดยพักอยู่ในเต็นท์ร่วมกับอิสอัคและยาโคบผู้เป็นทายาทตามพระสัญญาเดียวกันนั้น
อับราฮัมเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกออกมาในแผ่นดินแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า
อับราฮัมไม่เพียงเป็นผู้ชอบธรรมด้วยความเชื่อเท่านั้น
ตัวของอับราฮัมดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ด้วยเหตุนี้คนที่พระเจ้าทรงเรียกออกมาให้เป็นคนของพระเจ้าไม่ควรที่จะพึ่งในกำลังความสามารถของตัวเองในการดำเนินชีวิตหรือการจะทำอะไรก็ตาม
แต่คนที่พระเจ้าทรงเรียกออกมาเป็นผู้ปรนนิบัติพระเจ้าควรจะทำการใดๆๆก็ตามและดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อเท่านั้น
การดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อคือการที่กล้าปฎิเสธตัวเอง ลืมอดีตของตัวเอง ทิ้งความรักชอบของตัวเองลงเสีย
วันนี้พี่น้องที่พระเจ้าทรงเรียกออกมาให้ปรนนิบัติพระองค์จำต้องทิ้งชีวิตธรรมชาติของตัวเอง พึ่งแต่พระคุณของพระเจ้าในชีวิตประจำวัน
ขอบคุณพระเจ้าการดำเนินชีวิตของพี่น้องในวันนี้ยังพึ่งความสามารถของตัวเองหรือไม่ วันนี้พี่น้องต้องมีใจที่กล้าหาญดำเนินชีวิตด้วยความเชื่ออย่างแท้จริงต้องไม่พึ่งกำลังความรักชอบของตัวเอง แต่พึ่งพิงกำลังความสามารถที่มาจากพระเจ้าเท่านั้น

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

วิถีทางของพระเจ้า

วิถีทางของพระเจ้า
มีพี่น้องที่รักในพระคริสต์มีประสบการณ์กับพระเจ้าได้มอบถวายตัวต่อพระองค์กล่าวว่าชีวิตนี้เพื่อพระเจ้า
ต่อมาภายหลังเมื่อเวลาผ่านไปสิบปีหรือยี่สิบปีสามปีสี่สิบปีนั้น พี่น้องที่ใได้มอบถวายตัวได้ลืมไปว่าเคยกล่าวด้วยวาจาว่ามอบถวายตัวเพื่อรับใช้พระเจ้า
หรืออาจเป็นเพราะความตั้งใจในการมอบถวายตัวเพื่อรับใช้พระเจ้านั้นเปลี่ยแปลงไปแล้วก็ได้
แต่อย่าลืมว่าพระเจ้านั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงและไม่เคยลืมเรื่องที่พี่น้องกล่าววาจามอบถวายตัวเลย วันหนึ่งพระเจ้าทรงนำพี่น้องกลับมาสู้หนทางแห่งการรับใช้ที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ให้กับพี่น้องแล้ว นี่คือวิถีทางของพระเจ้า
การที่จะเป็นผู้รับใช้พระเจ้านั้นไม่ใช่ตัวพี่น้องเป็นผู้เลือกรับใช้พระเจ้า
แต่เป็นพระเจ้าที่เป็นผู้เลือกรับใช้พระเจ้าเท่านั้น
ใจปราถนาที่จะรับใช้พระเจ้าเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยเพราะการมอบถวายที่ยิ่งใหญ่คือการถวายตัวรับใช้พระเจ้านั่นเอง
พระเจ้ามีเส้นทางที่กำหนดให้พี่น้องแต่ละคนได้เดินในวิถีทางของพระองค์ไว้แล้ว
ดังนั้นสิ่งที่พี่น้องต้องทำคือแสวงหาพระองค์ ติดสนิทกับพระเจ้าตลอดเวลา เมือวันเวลาพร้อมแล้วพระเจ้าจะเลือกพี่น้องให้เป็นผู้รับใช้พระเจ้าด้วยวิถีทางของพระองค์ เอเมน

สิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย พระโลหิตของพระคริสต์

พระโลหิตของพระคริสต์เป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย
พระเจ้ามีความประสงค์ให้มนุษย์ทุกคนได้รับความชอบธรรมมีชีวิตปราศจากความผิดบาปและในโลหิตของพี่น้องประกอบด้วยชีวิตของพระเจ้า
ดังนั้นพระโลหิตของพระคริสต์จึงได้หลั่งไหลออกมาเพื่อมนุษย์ไถ่ความผิดบาปของพี่น้องทั้งหลาย
พระเจ้าทรงประสงค์เช่นนี้ต้องการให้พระโลหิตของพระคริสต์เป็นเครื่องถวายเพื่อความพอสำหรับความชอบธรรมของพระเจ้า เอเมน.
พี่น้องที่รักวัันนี้ได้รับการไถ่จากเลือดของพระคริสต์นับเป็นพระคุณอันล้นเหลือจริงๆๆ พระเยซูคริสต์รักพี่น้องทั้งหลายตายเป็นขึ้นก็เพื่อพี่น้องทั้งหลาย
วันนี้พี่น้องทั้งหลายได้รับความรอดนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่พี่น้องได้รับจากพระเจ้าแล้ว เอเมน

พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ไถ่บาปนิรันดร์

พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ไถ่บาปของมนุษย์
การที่พี่น้องจะมุ่งหน้าเดินต่อไปในหนทางของพระคริสต์เจ้านั้น
สิ่งสำคัญที่สุดคือพี่น้องจะต้องรับและเข้าใจคุณค่าของพระโลหิคของพระคริสต์
พี่น้องจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการที่พระเยซูคริสต์ทรงตายบนไม้กางเขน
และพี่น้องต้องเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในฤทธิ์เดชของพระโลหิตของพระเจ้าในการชำระบาปให้กับพี่น้องด้วย
พระโลหิตมีไว้สำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และเป็นสิ่งขัดเกลาขั้นแรกที่ทำให้พี่น้องยืนหยัดต่อเบื้องพระพักตร์ของพระเจ้า
มนุษย์ทุกคนต้องการได้รับการพระราชทานอถัยโทษในความผิดบาปที่ได้ทำไว้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะตกอยู่ภายใต้การพิพากษา
การที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษความบาปนั้น พระเจ้าเองไม่ได้มองข้ามความผิดบาปที่มนุษย์ได้กระทำไว้เลย
แต่เป็นเพราะพระเจ้าได้ทรงยึดมั่นในพระโลหิต
เดิมทีเดียวพระโลหิตนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับพี่น้อง แต่มีไว้สำหรับพระเจ้า
พระเจ้าทรงอาศัยพระวิญญาณบริสุทธิ์มาสำแดงให้พี่น้องได้เห็นคุณค่าของพระโลหิตว่ามีต่อพี่น้องมากมายเพียงใด
เดิมทีเดียวพระโลหิตนั้นมีไว้เพื่อพระเจ้าเท่านั้น จากพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมจนถึงพันธสัญญาใหม่ จะพบว่าพระโลหิตเกี่ยวข้องกับการไถ่บาปมาโดยตลอด
พระคัมภีร์ตลอดทั้งเล่มได้กล่าวถึงพระโลหิตเกินกว่าร้อยครั้งขึ้นไป ในแต่ละครั้งมีเพื่อพระเจ้าเท่านั้น
ในพันธสัญญาเดิมมีวันสำคัญวันหนึ่งคือ วันแห่งการไถ่บาป
ลนต. 16:14 ให้เขาเอาเลือดโคเล็กน้อยประพรมหน้าพระที่นั่งกรุณา โดยประพรมเลือดที่พระที่นั่งกรุณาเจ็ดครั้งด้วยนิ้วมือของเขา
ลนต. 16:15 “แล้วให้อาโรนฆ่าแพะที่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปสำหรับประชาชน นำเลือดแพะเข้าไปภายในม่าน เอาเลือดแพะไปทำเช่นเดียวกับที่ทำกับเลือดโค คือประพรมบนพระที่นั่งกรุณาและที่ข้างหน้าพระที่นั่งกรุณา
ลนต. 16:16 โดยวิธีนี้แหละ เขาจะลบมลทินของอภิสุทธิสถาน เพราะเหตุมลทินของคนอิสราเอล เพราะเหตุการล่วงละเมิด เพราะบาปทั้งสิ้นของพวกเขา และอาโรนจะทำต่อเต็นท์นัดพบซึ่งอยู่กับเขาท่ามกลางมลทินของพวกเขา
ในยุคพันธสัญญาเดิมมีปุโรหิตใหญ่เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะทำพิธีวันแห่งการไถ่บาป ให้แก่ชาวอิสราเอลได้ เพราะปุโรหิตเปรียบเสมือนพระเยซูคริสต์ที่ทรงทำการงานไถ่บาปชั่วนิรันดร์
ฮบ. 9:11 แต่เมื่อพระคริสต์เสด็จมาในฐานะมหาปุโรหิตแห่งบรรดาสิ่งประเสริฐซึ่งมาถึงแล้ว พระองค์ก็เสด็จเข้าไปสู่พลับพลาที่ใหญ่และสมบูรณ์ยิ่งกว่าแต่ก่อน (ที่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ คือไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างของโลกนี้)
ฮบ. 9:12 คือเสด็จเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ครั้งเดียวเป็นพอ และพระองค์ไม่ได้ทรงนำเลือดแพะและเลือดลูกวัวเข้าไป แต่ทรงนำพระโลหิตของพระองค์เองเข้าไป จึงได้มาซึ่งการไถ่บาปชั่วนิรันดร์
การมอบถวายพระโลหิตของพระเยซูคริสต์นั้นเป็นที่พระเจ้าพระทัย
การกระทำของพระเยซูคริสต์เป็นการติดต่อระหว่างปุโรหิตกับพระเจ้าโดยตรง ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ได้รอดพ้นสายตามนุษย์คนบาปที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการมอบถวายพระโลหิตของพระคริสต์ในครั้งนี้และเป็นการมอบถวายพระโลหิตเพื่อพระเจ้าเท่านั้น
อพย. 12:13 แต่เลือดตามบ้านที่เจ้าทั้งหลายอยู่นั้น จะเป็นหมายสำคัญสำหรับพวกเจ้า เมื่อเราเห็นเลือดนั้น เราจะผ่านเว้นพวกเจ้าไป จะไม่มีภัยพิบัติเกิดแก่พวกเจ้า ขณะที่เราโจมตีแผ่นดินอียิปต์
ในพระธรรมอพยพนั้นการไถ่บาปมีไว้สำหรับพี่น้องทั้งหลาย ดังนั้นจึงจึงยืนยันได้ว่าพระโลหิตไม่ได้มีไว้สำหรับมนุษย์แต่มีไว้สำหรับพระเจ้า เพราะเลือดที่ทาไว้ตามบ้านตามขอบประตูนั้น ผู้ที่อยู่ในงานเลี้ยงไม่มีโอกาสเห็นเลย เอเมน

สองนักประกาศกิตติคุณผู้ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

สองนักประกาศกิตติคุณผู้ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
เมื่อ200ปีก่อนนั้น 
จอห์น เวสเล่ห์ JOHN WESLEY และจอห์จ วิทฟิลด์ GEORGE WHITFELD
ได้ถูกพระเจ้าฟื้นฟูขึ้นมาให้เป็นนักประกาศกิตติคุณ ที่ส่วนใหญ่ทั้งสองจะไปประกาศกิตติคุณตามท้องถนน
จากตามบทบันทึกชีวประวัติของ จอห์จ วิทฟิลด์ GEORGE WHITFELD
บันทึกไว้ว่าทั้งสองมักจะไปประกาศกิตติคุณบนเนินเขาบนภูเขา
เนื่องจากในขณะนั้นคริสตจักรในประเทศอังกฤษมีระเบียบว่า ห้ามบุคคลใดไปเทศนาสั่งสอนพระคัมภีร์นอกสถานที่ตามท้องถนน ยกเว้นในสถานที่บริสุทธิ์เท่านั้นนั่นก็คือที่โบสถ์คริสตจักรนั่นเอง
ด้วยระเบียบนี้ผู้ใดจะเทศนาหรือสอนพระคัมภีร์ต้องอยู่ในโบสถ์คริสตจักรเท่านั้น
แต่พระเจ้าได้ทรงทำการฟื้นฟูให้จอห์น เวสเล่ห์ และจอห์จ วิทฟิลด์ ให้ออกไปเทศนาสั่งสอนภายนอกโบถ์คริสตจักร
นี่เป็นที่มาของการออกไปประกาศกิตติคุณตามสถานที่ต่างๆๆของพี่น้องในยุคต่อมา

ธาตุแท้ของพระเจ้าคือ

ธาตุแท้ของพระองค์
การเป็นบุตรของพระเจ้าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ฐานะสูงส่งเต็มด้วยสง่าราศีและสำคัญมาก
พระคุณการช่วยให้รอดของพระเจ้าที่มีต่อพี่น้องทั้งหลายที่เชื่อในพระเยซูคริสต์บุตรของพระเจ้าผู้สร้างสรรพสิ่งในจักรวาลนี้โลกนี้ ทรงเป็นพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก พระเจ้าผู้ทรงพระราชทานชีวิตของพระองค์ให้แก่พี่น้องทั้งหลายที่เชื่อและต้อนรับในพระองค์
สภาพของพระเจ้าและเชื้อของพระเจ้าที่อยู่ภายในพี่น้องนั้นเป็นธาตุแท้ของพระเจ้า
นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าพระราชทานให้แก่พี่น้องทุกท่านในวันนี้ที่เชื่อและต้อนรับองค์พระเยซูคริสต์พระบุตรหัวปีของพระองค์
ด้วยสภาพและเชื้อของพระเจ้าที่อาศัยอยู่ภายในพี่น้องทั้งหลายเป็นธาตุแท้ที่แบ่งแยกว่าใครเป็นบุตรของพระเจ้า และใครเป็นบุตรของมารซาตาน
ขอบคุณพระเจ้าวันนี้พี่น้องที่รักในพระคริสต์ท่านเป็นบุตรของพระเจ้าอย่างสมบูรณ์แล้ว เอเมน

เป็นผู้ชอบธรรมด้วยความเชื่อไม่ใช่จากธรรมบัญญัติ

เป็นผู้ชอบธรรมด้วยความเชื่อ
ปฐก. 15:6 อับรามก็เชื่อพระยาห์เวห์ ความเชื่อนั้นพระองค์ทรงถือว่าเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน
รม. 4:2 ถ้าอับราฮัมถูกชำระให้ชอบธรรมโดยการประพฤติ ท่านก็มีทางที่จะอวดได้ แต่ไม่ใช่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า
รม. 4:3 พระคัมภีร์ว่าอย่างไร? ก็ว่า“อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และพระองค์ทรงถือว่าท่านเป็นคนชอบธรรม”
รม. 3:20 เพราะว่าในสายพระเนตรของพระเจ้า ไม่มีใครถูกชำระให้ชอบธรรมได้ โดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติ เพราะว่าธรรมบัญญัตินั้นทำให้เรารู้จักบาป
ในพระคัมภีร์ทั้งสามข้อนี้จะเห็นได้ว่าอับราฮัมเป็นผู้ชอบธรรมด้วยความเชื่อพระเจ้านั่นเอง
คนที่ไม่เชื่อพระเจ้าเป็นคนที่ตกต่ำเพราะเชื่อมั่นในตัวเองมาก ดังนั้นจึงไม่มีสักคนเดียวที่ถูกเรียกได้ว่าเป็นผู้ชอบธรรมต่อพระเจ้า ไม่ว่าจะด้วยการประพฤติใดๆก็ตามก็ไม่สามารถช่วยได้เลย
กท. 3:9 เพราะฉะนั้น คนที่เชื่อจึงได้รับพรร่วมกับอับราฮัมผู้ซึ่งเชื่อ
กท. 3:14 เพื่อพรของอับราฮัมจะได้มาถึงบรรดาคนต่างชาติ ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ เพื่อเราจะได้รับพระวิญญาณตามพระสัญญาโดยความเชื่อ
แต่พี่น้องทั้งหลายที่พระเจ้าทรงเรียกนั้นไม่ได้พึ่งและเชื่อมั่นในกำลังความสามารถของตัวเอง แต่เชื่อและพึ่งในพระคุณของพระเจ้า ในอดีตที่ผ่านมามนุษย์ทำตามพระบัญญัติดูได้จากพระคัมภีร์เดิมใช้ความสามารถของตัวเองไมพึ่งในพระเจ้าต้องทำแบบนั้นแบบนี้
เมื่อพระเจ้าได้ทรงส่งพระบุตรองค์เดียวมาบังเกิดวันนี้พระเยซูคริสต์เป็นทางเดียวเท่านั้นที่เป็นพระผู้ช่วยให้รอด
วันนี้พี่น้องต้องพึ่งพึงในพระคุณของพระเจ้าอย่างมาก ด้วยเหตุนี้อับราฮัมและพี่น้องทั้งหลายจึงเป็นผู้ชอบธรรมด้วยความเชื่อ
พี่น้องที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ ด้วยความเชื่อจึงได้รับพระวิญญาณนั้น
วิญญาณนั้นก็คือความจริงความเที่ยงแท้ของพระคริสต์ที่ได้มาจากความเชื่อไม่ใช่ได้มากจากธรรมบัญญัติ
กท. 3:2 ข้าพเจ้าใคร่รู้ข้อเดียวจากท่านว่า ท่านได้รับพระวิญญาณโดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติ หรือได้รับโดยความเชื่อตามที่ได้ฟัง?
ขอบคุณพระเจ้าวันนี้พี่น้องทั้งหลายท่านก็เหมือนอับราฮามที่ได้เข้าสนิทในพระคริสต์ด้วยความเชื่อ คือเชื่อในพระคุณของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้พี่น้องทั้งหลายจึงนับได้ว่าเป็นผู้ชอบธรรมมีส่วนในพระคริสต์ชั่วนิรันดร์ เอเมน

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

คริสตจักรคือคนที่พระเจ้าทรงเรียก

คริสตจักรคือคนที่พระเจ้าทรงเรียกในวันนี้
1คร. 1:24 แต่สำหรับพวกที่พระเจ้าทรงเรียกนั้น ทั้งพวกยิวและพวกกรีก ต่างถือว่าพระคริสต์ทรงเป็นฤทธานุภาพและพระปัญญาของพระเจ้า
ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมจะเห็นได้ว่าคนที่พระเจ้าได้ทรงเรียกออกมานั่นคืออับราฮัม
พระเจ้าได้เรียกให้อับราฮัมออกมาจากเมืองบาเบล ออกมาจากแผ่นดินที่เต็มไปด้วยรูปเคารพมากมายแผ่นดินที่มีการกราบไหว้มารซาตานภูติผีปีศาจต่างๆๆ
ขอบคุณพระเจ้าวันนี้วันนี้พระเจ้าได้เรียกพี่น้องทั้งหลายออกมาจากบาเบลด้วย 
พี่น้องในประเทศไทยล้วนเต็มไปด้วยเมืองแห่งรูปเคารพทุกตรอกซอกซอย มีการกราบไหว้ทรงเจ้าเข้าผีบูชาสารพัดสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นมาจากซาตานทั้งสิ้นนี่ก็คือการกบฎของมันนั่นเองที่นำตัวมันมาเทียบกับพระเจ้าพระผู้สร้าง
เมื่อพระเจ้าได้เรียกอับราฮัมออกจากดินแดนแห่งรูปเคารพแล้ว พระเจ้าได้นำอับราฮัมและพี่น้องทั้งหลายเข้าสู่แผ่นดินคะนาอัน
คะนาอันตรงนี้เล็มถึงองค์พระเยซูคริสต์ วันนี้พี่น้องทั้งหลายท่านถูกเรียกให้เข้าสู่ในพระเยซูคริสต์แล้วอย่างแท้จริง
พี่น้องในวันนี้เป็นกลุ่มชนที่ถูกเรียกออกมา ในภาษกรีกเรียกว่า ECCLESIA มีความหมายคือคำว่าคริสตจักร นั่นเอง
เมื่อก่อนที่พี่น้องจะมาเชื่อพระเจ้าล้วนตกอยู่ในบาเบลที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ บูชากราบไหว้ และแม้กระทั้งทุกวันนี้ชนทุกชาติทุกภาษาล้วนตกอยู่ภายใต้สภาพการอันตกต่ำนี้ทั้งหมด
วันนี้พระเจ้าทรงเรียกพี่น้องทั้งหลายออกมาจากการล่อลวงของมารซาตานนั้นแล้ว
นำพาพี่น้องเข้าสู่พระคริสต์เป็นแผ่นดินงามที่สูงส่งเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีและมีสง่าราศี
ขอบคุณพระเจ้าพี่น้องทั้งหลายในวันนี้ล้วนเป็นคนที่พระเจ้าทรงเรียกให้เข้าสู่การสนิทกับพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าคือพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดนิรันดร์
สรรเสริญพระเจ้า เอเมน

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558

วอท์ชแมน นี 15 ตอนจบ





ประวัติพลีชีพพี่น้องวอท์ชแมน นี ผู้รับใช้พระเจ้าที่ยอมพลีชีพเพื่อพระเยซูคริสต์ในประเทศจีน เอเมน