วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พระเจ้าของเราเป็นอยู่เป็นนิจ เราเป็นมนุษย์ดินเสื่อมสลายในพริบตา

มลค. 1:11 พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ตั้งแต่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นถึงที่ดวงอาทิตย์ตก นามของเราก็ใหญ่ยิ่งท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย และเขาถวายเครื่องหอมและของถวายที่บริสุทธิ์แด่นามของเราทุกที่ทุกแห่ง เพราะว่านามของเรานั้นใหญ่ยิ่งท่ามกลางประชาชาติ
ขอบคุณพระเจ้าวันเวลาเดือนปีหมุนเร็วยิ่งนัก
สะท้อนให้เห็นว่าเวลาของเราที่อยู่กับพระเจ้าในโลกนี้น้อยลงไปทุกที
พระเจ้าของเราเป็นอยู่เป็นนิจ
แต่เรามนุษย์ดินเสื่อมสลายได้ในพริบตา
ปี2014กำลังล่วงไป
ปี2015กำลังเข้ามา
สิ่งที่ไม่ได้ทำหลายอย่างในปีเก่าขอให้เริ่มต้นใหม่รอบใหม่ตั้งต้นตั้งใจแสวงหา
รักพระเจ้า รักพระคำ รักการอธิษฐาน รักการประชุมนมัสการ
ทำทุกสิ่งทุกอย่างถวายตอบแทนพระคุณพระเจ้าของเรา
พระเยซูคริสต์ทำเพื่อเรามาก่อนสองพันกว่าปีแล้ว
วันนี้เราต้องทำให้กับพระองค์เพื่อแสดวงว่าเรารักพระองค์ยำเกรงพระองค์
ขอพระเยซูคริสต์พระเจ้าองค์สันติสุขดำรงอยู่กับพี่น้องทุกท่าน เอเมน.

การพิพากษาอนาคตขึ้นอยู่กับพระเจ้า

การพิพากษาและอนาคตขึ้นอยู่กับพระเจ้า
ปญจ. 3:16 ยิ่งกว่านั้นอีก ที่ภายใต้ดวงอาทิตย์ข้าพเจ้าเห็นว่า ในที่ของความยุติธรรมมีความอธรรมอยู่ด้วย และในที่ของความชอบธรรมมีความอธรรมอยู่ด้วย
ปญจ. 3:17 ข้าพเจ้ารำพึงในใจว่า พระเจ้าจะทรงพิพากษาคนชอบธรรมและคนอธรรม เพราะมีกาลกำหนดไว้สำหรับทุกเรื่อง และสำหรับการงานทุกอย่าง
ปญจ. 3:18 ข้าพเจ้ารำพึงในใจเกี่ยวกับบรรดามนุษย์ว่า พระเจ้าทรงทดสอบพวกเขาเพื่อจะสำแดงว่า พวกเขาเป็นเพียงสัตว์
ปญจ. 3:19 เพราะว่าเคราะห์ของบรรดามนุษย์กับเคราะห์ของสัตว์นั้นเหมือนกัน ฝ่ายหนึ่งตาย อีกฝ่ายหนึ่งก็ตายเหมือนกัน ทั้งสองมีลมหายใจอย่างเดียวกัน และมนุษย์ไม่มีอะไรดีกว่าสัตว์ เพราะสารพัดก็อนิจจัง
ปญจ. 3:20 ทุกอย่างไปสู่ที่เดียวกัน ทุกอย่างเป็นมาจากผงคลีดิน และทุกอย่างกลับเป็นผงคลีดินอีก
ปญจ. 3:21 ใครจะรู้ได้ว่าวิญญาณของมนุษย์ไปสู่เบื้องบน และวิญญาณของสัตว์ลงไปสู่แผ่นดินโลก?
ปญจ. 3:22 เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเห็นว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่าที่มนุษย์จะเปรมปรีดิ์ในการงานของตน เพราะว่านั่นเป็นรางวัลของเขา ใครจะนำเขาให้เห็นว่าอะไรจะเป็นมาภายหลังเขา?
เราเป็นแค่ผงคลีดินแต่วันนี้เรามีโอกาสต่างจากสัตว์ตรงที่เรามีพระวิญญาณของพระเจ้าอยูภายในเราเรามีพระเจ้าตรีเอกภาพภายในเรา 
เรามีพระคัมภีร์ไว้อ่าน เรามีเวลาอ่านเรามีเวลาอธิษฐานเรามีเวลาประชุมนมัสการพระเจ้า เรามีการดำเนินชีวิตคริสตจักร
ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ส่งบุตรคนองค์เดียวมาไถ่มนุษย์บาปอย่างข้าพระองค์
คนบาปคนหนึ่งวันนี้ได้รับพระคุณที่ล้นเหลือแล้ว
ไม่มีสิ่งใดตอบแทนพระองค์ได้เท่ากับเป็นข้ารับใช้พระองค์เท่านั้น
สรรเสริญพระเยซูขอบคุณพระเจ้า เอเมน.

วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พระคุณหรือผลประโยชน์ต่างตอบแทน

มธ. 6:1 “จงระวัง อย่าทำศาสนกิจเพื่ออวดคนอื่น ถ้าทำอย่างนั้นท่านทั้งหลายจะไม่ได้รับบำเหน็จจากพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์
พระคุณหรือผลประโยชน์ต่างตอบแทน
พี่น้องทั้งหลายท่านเชื่อพระเจ้าเพราะอะไร
พี่น้องทั้งหลายท่านรับใช้พระเจ้าเพราะอะไร.
จะสิ้นปีแล้วต้องมานั่งทบทวนพระคำแห่งความจริง
เมื่อพระเยซูเจ้านำเราหลุดพ้นจากยุคกฎบัญญัติหลั่งพระโลหิตตรึงชีวิตเก่าตายแล้วเป็นขึ้นมาเพื่อไถ่เราทั้งหลายในวันนี้
ดังนั้นเราจึงไม่มีไม่เป็นอะไรเลยที่จะเรียกร้องผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากพระเจ้าของเราได้อีก
ดังนั้นวันนี้เราเชื่อเรารับใช้พระเจ้าเพราะพระคุณอันล้นเหลือของพระองค์ที่มีต่อเราก่อนเราจึงต้องเชื่อและรับใช้พระองค์ด้วยพระคุณไม่ใช่ด้วยการหวังผลประโยชน์ที่เราจะได้รับจากพระองค์
จะสิ้นปีอีกแล้วพี่น้องทั้งหลายท่านต้องกลับใจใหม่เปลี่ยนใหม่ถอดด้ามเป็นคนใหม่ในพระองค์ ทำทุกสิ่งทุกอย่างถวายแด่พระเจ้าด้วยความรักในพระเจ้าด้วยพระคุณที่พระเจ้ามีต่อพีน้องทั้งหลาย
มธ. 6:33 แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้ เอเมน

วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

จงหายเหนื่อยเป็นสุขในพระคริสต์วันนี้

จงหายเหนื่อยเป็นสุขในพระคริสต์วันนี้
มธ. 11:28 บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข
(สองสามวันก่อนพ่อฟังรายการวิทยุ พ่อได้ยินถ้อยคำของคนที่ไม่มีความเชื่อในพระเจ้า เขาใช้เวลายาวนานมาก พยายามพิสูจน์ว่าเรื่องพระเจ้าเป็นเรื่องไร้สาระและไม่มีเหตุผล เพราะศาสนาต้องเป็นศาสนาแห่งเหตุผล... ปฏิเสธความเชื่อในพระเจ้า เขาใช้เวลาพูดอยู่ยาวนาน พ่อก็ฟังไปก็อมยิ้ม... “เหนื่อยนะครับที่จะพยายามปฏิเสธพระเจ้า... เพราะถ้าไม่มีอยู่จริงแล้วจะมานั่งปฏิเสธทำไมหนอ...” และเน้นว่าต้องใช้เหตุผลพิสูจน์ได้... เหตุผลของเราคือพระเจ้าเอง เหนือกว่าเหตุผลใดๆ... เหนื่อยครับ... “เราคริสตชนเชื่อเถอะ ความเชื่อ คือ ความจริงในความเชื่อ และเหตุผลคือความเชื่อเอง... มีความสุขถ้าได้เชื่อ... คนที่เขาพยายามปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก เขาก็เชื่อในความพยายามของเขาครับแม้ต้องแจวเรือในอ่างน้ำก็ตาม... “วน” 
o เราได้เห็น “ความรัก” ของพระองค์ เชื่อมั่นในพระองค์ได้เลยครับ “มีความสุขในความเชื่อเถอะครับ”)
ขอยกตัวอย่างมาจากรำพึงพระวาจาประจำวันของคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกรประจำวันจันทร29ธันวาคม2014
เหนื่อยจริงๆๆ ความเชื่อต้องหาเหตุผลมากมายมายืนยันนั่นไม่ใช่เชื่อพระเจ้าแล้วแต่เชื่อต้นไม้แห่งความรู้ดีและรู้ชั่ว เหตุผลคือความคิดเห็นส่วนตัวบางคนตั้งเหตุผลไว้ว่าต้องแบบนี้ถึงจะถูกต้องพิสูจน์ได้ก่อนถึงจะเชื่อ ต้องเชื่อแบบวิทยาศาตร์
การเชื่อในพระเจ้าเป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆๆ
บางคนเชื่อทันทีว่ามีพระเจ้าจริงมีพระเยซูคริสต์จริง
แต่บางคนนานมากกว่าจะเชื่อใช้เวลาร่วมหมดสินอายุขัยของชีวิตเหนื่อยนะ
แต่บางคนก็เหนื่อยจนตายในที่สุดก็ว่างเปล่าตายไปแบบไร้ความเชื่อเพราะเขากินต้นไม้แ่ห่งความรู้มากไป
มีพี่น้องคริสเตียนบางคนมักใช้คำว่ารู้เขารู้เรา คือศึกษาในเรื่องพระเจ้าแบบประวัติศาตร์ นักเทสน์คนนี้คณะนี้ยุคนี้เป็นโพสโมเดิอน์เป็นโน่นนี่นั่นแต่ไม่เอาเรื่องความหมายฝ่ายวิญญาณของพระคำของพระเจ้าในพระคัมภีร์ แต่แกเรียนรู้หลายสำนักจบมาหลายที่หลายหลักสูตรประกาศนีบัตรมากมายแก่เชื่อแบบไหนรู้ใหม ใครวางมือที่ไหนไปเอาหมด เชื่อในเรื่องวางมือการมหัศจรรย์ทางตาเห็น แต่ไม่เอาพระคำพระเจ้าทั้งหมดมาแสวงหาหลักความจริง พี่น้องแบบนี้เรียกว่าเชื่อแบบกินต้นไม้แห่งความรู้ดีชั่ว ไม่ได้กินพระคำแห่งชีวิตถ้าให้อ่านหนังสือฝ่ายวิญญาณไม่อ่านแต่ถ้าให้อ่านเรื่องการมหัศจรรย์สารพัดมีขนนกเกล็ดนกของฑูตสวรรค์พยานเทียมเท็จอ่านจริงอ่านจังแบบนี้เหนื่อยมากมาย ที่จริงพวกเทียมเท็จนี่มันเก่งมากการทำให้เหนื่อยยกเอาต้นไม้แห่งรู้ดีชั่วมาใช้แบบนี้มันเก่งจริงๆๆ
พี่น้องหลงทางไปเยอะกว่าจะรู้ตัวอีกทีหมดบ้านหมดช่องหมดเงินไปเยอะเพราะพวกนี้มหัศจรรย์ช้อนเงินช้อนทองแถมบ้านรถเอาหมด สอนพี่น้องต้องถวายเยอะๆๆจะได้รับพระพรเยอะมั่งคั่งร่ำรวยมีเงินทองใช้ไม่จบสิ้นไม่ขัดสนไม่ลำบากไม่เจ็บป่วยไข้ แต่ถ้าไม่ถวายความมหัศจรรย์ก็ไม่บังเกิดนั่นไงลงที่เงินอีกแล้วเหนื่อยจริงๆๆ
เหตุแห่งความเหนื่อยเพราะพี่น้องไม่กินต้นไม้แห่งชีวิต ไม่ยอมจำนนต่อการเป็นขึ้นใหม่อย่างแท้จริง ไม่ยอมตรึงมนุษย์เก่าคนบาปไว้บนไม้กางเขนบังไปแบกมันมาอยู่ได้เหนื่อยนะแบบนี้
เงินทองนำหน้าความเชื่อเหตุผลรู้เขารู้เรานำหน้าความเชื่อ มากกว่าให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำพาอันนี้เหนื่อย
พี่น้องต่อให้หมดเงินหมดทองหาเหตุผลรู้เขารู้เราสารพัดตรงนี้ช่วยพี่น้องเขาแผ่นดินสวรรค์ไม่ได้ง่ายๆๆในพระคำของพระเจ้ามมีบอกไว้ถ้าอย่านี้เราจะแย่กว่าคนที่ยังไม่เชื่อพระเจ้าเสียอีก เพราะคนที่ไม่เชื่อเขาไม่รู้ไม่เห็นไม่เคยฟังพระคำของพระเจ้าแต่เรารู้เห็นฟังพระคำของพระเจ้าแต่ไม่แสวงหาหลักความจริงในพระคำไม่กินพระคำของพระเจ้าอย่างแท้จริง แต่ดันไปกินต้นไม้รู้ดีชั่วเหนื่อยนะ
การไม่เหนื่อยต้องกินต้นไม้แห่งชีวิต นั่นคืออ่านพระคัมภีร์ อธิษฐาน แล้วเชื่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้นพอ อาจารย์คนอื่นไม่ต้องเชื่อมากเพราะเขาเป็นคนคนส่งจดหมายของพระเจ้าเองเราก็เป็นคนรับจดหมายที่พระเจ้าส่งมานั่นคือพระคำของพระเจ้ามาเปิดอ่านมากินเพื่อความเจริญเติบโตในชีวิตฝ่ายวิญญาณ
ไหนๆๆก้ไหนเรื่อเงินทองในพระคัมภีร์ใหม่ไม่มีเน้นย้ำสักข้อ
เรื่องการมอบถวายเงินทองเลิกเถอะยกเอามาลาคีมาหลอกเอาเงินพี่น้องนั่นยังอยู่ในยุคกฎบัญญัติก่อนพระเยซูคริสมาบังเกิดสี่ร้อบกว่าปี ในยุคพระเยซูคริสไม่มีเรื่องเิงนทองแล้วสิบลดสิบเปอร์เซ็นต์ตรงนี้แม้แต่โรงเรียนพระคริสตธรรมทั้งหลายก็สอนนักเรียนกันแต่เพื่อความอยู่รอดรู้ว่าสอนผิดสอนไม่ตรงนั่นเอง หญิงหมายกับเงินสองเหรียญสุดท้ายนั่นถวายหมดตัวให้ด้วยเต็มใจถวายให้ไม่นึกเสียดาย ก็ดีกว่าให้สิบลดแล้วเสียมากมายจริงใหมเหนื่อยนะแบบนี้
ว่ากันด้วยเรื่องความเหนื่อยแล้วนึกถึงนางมาธากับมารีย์สองพี่น้องคนมาธาทำสารพัดวิธีแห่งความเหนื่อยนึกว่าจะได้รับความดีความชอบบำเหน็จมากมายแต่เปล่าเลยกลายเป็นมารีย์นั่งฟังพระเจ้าพระเยซูตรัสไปพลางๆๆอย่างเงียบๆๆสบายๆๆไม่เหนื่อยไม่ทำอะไรแต่เข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าเข้าใจถึงพระประสงค์ของพระเจ้าเรื่องนี้เมื่อมาเปรียบเทียบกลับสมัยนี้มาธาก็คือคนที่ทำสารพัดวิธีคิดค้นรูปแบบสารพัดนำเรื่องทางโลกด้วยเข้ามาใช้ในสถานที่ประชุมในคริสตจักร ต้องจัดอบรมสัมนาฟื้นฟูมากมาย การพูดต้องมีเครื่องเสียงดีๆๆแพงๆๆแจ่มๆๆเครื่องดนตรีเต็มวงเหนื่อยมาก เพื่อต้องการหาสาวกคนมาเชื่อพระเจ้านี่ไม่ต่างอะไรกับตอนไม่เชื่อพระเจ้าในศาสนาอื่น ถ้าไปเจอพวกที่ศึกษาพระธรรมแบบจริงจังมาฟังมาดูพวกพี่น้องทำแบบนี้เข้าว่าไร้สาระจริงๆๆทำอะไรแบบเด็กอนุบาลการแสดงชัดๆๆไม่จริงใจไม่ออกมาจากใจ.
ส่วนมารีย์นั่นเรียบง่ายพูดเรื่องพระเจ้าก็ไม่ต้องใช้ลูกล่อลูกชนลีลาสำนวนโวหารตลกโปฮาเพราะเราประกาศพระกิตติคุณข่าวดีเรื่องของพระเจ้าไม่ได้มาดูมาฟังเดี่ยวไมค์โครโฟนถูกต้องใหมแล้วก็ไม่เหนื่อย เวลานมัสการพระเจ้าก็อ่านพระคัมภีร์เพียวๆๆดนตรีมีประกอบพอเพียงเคล้าไปกับเสียงร้องสรรเสริญไม่ต้องกระโดดโลดเต้นเป็นแบบบางที่เล่นเอานึกว่าอยู่ลานโลกดนตรีฟรีที่ไหนสักแห่ง 
ชีวิตคริสเตียนแบบมารีย์มีแค่อ่านพระคัมภีร์อธิษฐานประชุมสามัคคีธรรมแบ่งปันประกาศกิตติคุณเรียบง่ายไม่เหนื่อย
ทั้งหมดนี้ชีวิตคริสเตียนที่ปกติจะไม่เหนื่อยต้องดำเนินตามพระวิญญาณล้วนๆๆแล้วทุกสิ่งจะเป็นไปอย่างอัตโนมัติไม่เหนื่อยเบาสบายที่สุด
พระคำของพระเจ้าบอกว่าบรรดาผู้ลำบากเหน็ดเหนื่อยจงมาหาเราท่านจะได้หายเหนื่อยเป็นสุข
หากมองย้อนไปยุคอาดัมนี่ถ้าอาดัมเอวาเชื่อฟังพระเจ้าป่านนี้ไม่ต้องเหนื่อยมายันลูกหลานในสมัยนี้คงนั่งกินอนกินต้นไม้แห่งชีวิตสบายใจเฉิบแน่นอนนั่งกินนอนกินกระดิกขาสบายเลย.
แต่เพราะความที่อยากรู้เขารู้เราอยากหาเหตุผลอยากทดสอบความเชื่อเลยต้องเหนื่อย ไปกินต้นไม้แห่งความรู้ดีชั่วงานเลยเขามาจนป่านนี้ พวกเรารุ่นลูกหลายเลยเป็นเผ่าพันธุ์แห่งความตกต่ำความบาปสารพัด
แต่ขอบคุณพระเจ้ามากมายพระคุณของพระองค์เหลือล้นจริงๆๆที่ส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาตายเพื่อไถ่เราทั้งหลายพระคริสต์ได้มาเป็นบุตรหัวปีทำให้เราที่เชื่อตามๆๆคลานกันมาหลังได้รับความรอดเป็นบุตรของพระเจ้าด้วยเช่นกันวันนี้เราเป็นพี่น้องที่รักในพระคริสต์แล้วเอเมนเราต้องไม่เหนื่อยมานั่งกินนอนกินต้นไม้แห่งชีวิตกันเถอะพี่น้องแล้วท่านจะหายเหนื่อยเป็นสุขเอเมน.

1ยอห์น บทที่2





1ยน. 2:1 ​ลูก​ที่รัก​ทั้ง​หลาย ข้าพ​เจ้า​เขียน​เรื่อง​นี้​ถึง​ท่าน เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​ไม่​ทำ​บาป แต่​ถ้า​ใคร​ทำ​บาป เรา​ยัง​มี​ทนาย​แก้ต่าง​ให้​เฉพาะ​พระ​พักตร์​ของ​พระ​บิดา คือ​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า ผู้​ทรง​เที่ยงธรรม

1ยน. 2:2 ​​พระ​องค์​ทรง​เป็น​เครื่อง​บูชา​ชดเชย​บาป​ของ​เรา และ​ไม่​เพียง​แต่​ชดเชย​เฉพาะ​บาป​ของ​เรา​เท่านั้น แต่​ชดเชย​บาป​ของ​มนุษย์​ทั้ง​โลก​ด้วย​

1ยน. 2:3 ​ถ้า​เรา​ปฏิบัติ​ตาม​บท​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์ เรา​มั่นใจ​ว่า​เรา​รู้จัก​พระ​องค์

1ยน. 2:4 ​ผู้​ที่​พูด​ว่า “ข้าพ​เจ้า​รู้จัก​พระ​องค์” แต่​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม​บท​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์ เขา​เป็น​คน​พูด​คำ​เท็จ และ “ความ​จริง”ไม่​อยู่​ใน​ตัว​เขา

1ยน. 2:5 ​แต่​ผู้​ที่​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​วาจา​ของ​พระ​องค์ ​ความ​รัก​ของ​พระ​เจ้า​ใน​ผู้​นั้น​ย่อม​สมบูรณ์ โดย​วิธี​นี้​เรา​จึง​รู้​ว่า เรา​อยู่​ใน​พระ​เจ้า

1ยน. 2:6 ​ผู้​ที่​พูด​ว่า​เขา​อยู่​ใน​พระ​องค์ ก็​ต้อง​ดำเนิน​ชีวิต​เหมือน​กับ​ที่​พระ​องค์ทรง​ดำเนิน​ชีวิต

1ยน. 2:7 ​ท่าน​ที่รัก​ทั้ง​หลาย สิ่ง​ที่​ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน มิใช่​บท​บัญญัติ​ใหม่ แต่​เป็น​บท​บัญญัติ​เก่า ที่​ท่าน​มี​อยู่​ตั้งแต่แรก​เริ่ม บท​บัญญัติ​เก่า​นี้​คือ​ถ้อยคำ​ที่​ท่าน​ได้​ฟัง​มา

1ยน. 2:8 ​บท​บัญญัติ​ที่​ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน​นั้น ก็​ยัง​นับ​ว่า​ใหม่ ใหม่​จริง​ทั้ง​สำหรับ​พระ​องค์​และ​สำหรับ​ท่าน เพราะ​ความ​มืด​กำลัง​ผ่านพ้น​ไป ​ความ​สว่าง​แท้​จริง​กำลัง​ทอ​แสง​ขึ้น​มา​แล้ว

1ยน. 2:9 ​ผู้​ที่​อ้าง​ว่า​ตน​อยู่​ใน​ความ​สว่าง แต่​เกลียดชัง​พี่​น้อง​ของ​ตน ผู้​นั้น​ยัง​จม​อยู่​ใน​ความ​มืด

1ยน. 2:10 ​ส่วน​ผู้​ที่รัก​พี่​น้อง​ของ​ตน ก็​ดำรง​อยู่​ใน​ความ​สว่าง และ​ไม่​มี​สิ่งใด​ใน​ตัว​เขา​ที่​ทำ​ให้​เขา​ล้ม​ลง​ได้

1ยน. 2:11 ​แต่​ผู้​ที่​เกลียดชัง​พี่​น้อง​ของ​ตน ก็​อยู่​ใน​ความ​มืด และ​เดิน​วนเวียน​อยู่​ใน​ความ​มืด โดย​ไม่​รู้​ว่า​เขา​กำลัง​เดิน​ไป​ทิศทาง​ใด เพราะ​ความ​มืด​ทำ​ให้​ตา​ของ​เขา​บอด​

1ยน. 2:12 ​ลูก​ที่รัก​ทั้ง​หลาย ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน เพราะ​บาป​ของ​ท่าน​ได้​รับ​การ​อภัย​แล้ว​เดชะ​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์

1ยน. 2:13 ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ที่​เป็น​บิดา ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน เพราะ​ท่าน​มา​รู้จัก​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ดำรง​อยู่​ตั้งแต่แรก​เริ่ม เยาวชน​ทั้ง​หลาย ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน เพราะ​ท่าน​ชนะ​มาร​ร้าย​แล้ว

1ยน. 2:14 ​เด็ก​ที่รัก​ทั้ง​หลาย ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​เธอ เพราะ​เธอ​ได้​มา​รู้จัก​พระ​บิดา ท่าน​ทั้ง​หลาย​ที่​เป็น​บิดา ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน เพราะ​ท่าน​มา​รู้จัก​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ดำรง​อยู่​ตั้งแต่แรก​เริ่ม เยาวชน​ทั้ง​หลาย ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน เพราะ​ท่าน​เป็น​คน​แข็งแรง และ​พระ​วาจา​ของ​พระ​เจ้า​ก็​สถิต​อยู่​ใน​ท่าน และ​ท่าน​ชนะ​มาร​ร้าย​แล้ว

1ยน. 2:15 ​จง​อย่า​รัก​โลก และ​สิ่ง​ที่อยู่​ใน​โลก​เลย ถ้า​ผู้ใด​รัก​โลก ​ความ​รัก​ของ​พระ​บิดา​ก็​ไม่​อยู่​ใน​ตัว​เขา

1ยน. 2:16 ​เพราะ​ทุกสิ่ง​ที่อยู่​ใน​โลก ได้แก่ ​ความ​มัวเมา​ใน​โลกีย์ ​ความ​โลภ​อยาก​ได้​ทุกสิ่ง และ​ความ​หยิ่ง​ทะนง​โอ้อวด​ใน​ทรัพย์​สมบัติ ล้วน​ไม่​ได้​มา​จาก​พระ​บิดา แต่​มา​จาก​โลก​ทั้งสิ้น

1ยน. 2:17 ​และ​โลก​พร้อมกับ​ความ​มัวเมา​ใน​โลกีย์​ของ​โลก​นั้น กำลัง​ผ่านพ้น​ไป แต่​ผู้​ที่​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้า จะ​ดำรง​อยู่​ตลอด​นิรันดร

1ยน. 2:18 ​ลูก​ที่รัก​ทั้ง​หลาย นี่​เป็น​วาระ​สุดท้าย ท่าน​ได้​ฟัง​แล้ว​ว่า ปฏิปักษ์​ของ​พระ​คริสต​เจ้ากำลัง​มา และ​เวลา​นี้ ปฏิปักษ์​จำนวน​มาก​ของ​พระ​คริสต​เจ้า​ก็​มา​ถึง​แล้ว เพราะเหตุนี้​เรา​จึง​รู้​ว่า เป็น​วาระ​สุดท้าย

1ยน. 2:19 ​เขา​ทั้ง​หลาย​ออก​ไป​จาก​เรา แต่​เขา​ไม่​ได้​เป็น​พวก​ของ​เรา​อย่าง​แท้​จริง เพราะ​ถ้า​เขา​เป็น​พวก​เดียวกัน​กับ​เรา​จริง เขา​คงจะ​อยู่​กับ​เรา แต่​ที่​เป็น​ดังนี้​ก็​เพื่อ​แสดง​ว่า เขา​เหล่า​นั้น​ทุก​คน​ไม่​เป็น​พวก​เดียวกับ​เรา

1ยน. 2:20 ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​รับ​การ​เจิมจาก​องค์​ผู้​ศักดิ์​สิทธิ์ และ​ทุก​คน​ต่าง​ได้​รับ​ความ​รู้

1ยน. 2:21 ​การ​ที่​ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​นั้น มิใช่​เพราะ​ท่าน​ไม่​รู้​ความ​จริง แต่​เขียน​เพราะ​ท่าน​รู้ดี​อยู่​แล้ว และ​เพราะ​ไม่​มี​ความ​เท็จ​ใด​มา​จาก​ความ​จริง​ได้

1ยน. 2:22 ​ใคร​เป็น​คน​พูด​คำ​เท็จ ถ้า​ไม่​ใช่​คน​ที่​พูด​ว่า ​พระ​เยซู​ไม่​ใช่​พระ​คริสต​เจ้า ผู้​นี้​คือ​ปฏิปักษ์​ของ​พระ​คริสต​เจ้า เขา​ปฏิเสธ​ทั้ง​พระ​บิดา​และ​พระ​บุตร​

1ยน. 2:23 ​ทุก​คน​ที่​ปฏิเสธ​พระ​บุตร​ก็​ไม่​มี​พระ​บิดา คน​ที่​ยอมรับ​พระ​บุตร​ย่อม​มี​พระ​บิดา​ด้วย

1ยน. 2:24 ​ขอ​ให้​สิ่ง​ที่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ฟัง​มา​ตั้งแต่แรก​เริ่ม​นั้น​คงอยู่​ใน​ท่าน ถ้า​สิ่ง​ที่​ท่าน​ฟัง​มา​ตั้งแต่แรก​เริ่ม​นั้น​คงอยู่​ใน​ท่าน ท่าน​ก็​ดำรง​อยู่​ใน​พระ​บุตร​ และ​ใน​พระ​บิดา

1ยน. 2:25 ​​พระ​สัญญา​ที่​พระ​องค์​ประ​ทาน​ไว้​ก็​คือ​ชีวิต​นิรันดร

1ยน. 2:26 ​ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​มา​มาก​แล้ว เกี่ยวกับ​บุคคล​ที่​พยายาม​ชักนำ​ให้​หลงผิด

1ยน. 2:27 ​แต่​สำหรับ​ท่าน การ​ได้​รับ​เจิม​จาก​พระ​องค์​ยังคง​อยู่​ใน​ท่าน และ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ให้​ใคร​มา​สอน​ท่าน​อีก เพราะ​การ​เจิม​ของ​พระ​องค์​นั้น​สอน​ทุกสิ่ง​ให้​ท่าน และ​เพราะ​การ​เจิม​นั้น​เป็นจริง​และ​ไม่​หลอก​ลวง จง​ดำรง​อยู่​ใน​พระ​องค์​ตาม​คำ​สั่ง​สอน​ที่​ท่าน​ได้​รับ​มา

1ยน. 2:28 ​ลูก​ที่รัก​ทั้ง​หลาย บัดนี้​จง​ดำรง​อยู่​ใน​พระ​องค์ เพื่อ​เมื่อ​พระ​องค์​ทรง​ปรากฏ เรา​จะ​ได้​มี​ความ​มั่นใจ ไม่​ต้อง​หลบเลี่ยง​ไป​จาก​พระ​องค์​ด้วย​ความ​อับอาย ใน​วันที่​พระ​องค์​เสด็จ​มา​

1ยน. 2:29 ​ ถ้า​ท่าน​รู้​ว่า ​พระ​องค์​ทรง​เที่ยงธรรม ท่าน​ก็​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ทุก​คน​ที่​ประพฤติ​ชอบ ย่อม​บังเกิด​จาก​พระ​องค์​


1ยอห์น บทที่1





1ยน. 1:1 ​เรา​ประกาศ​เรื่องราว​เกี่ยวกับ​พระ​วจนาตถ์​แห่ง​ชีวิตซึ่ง​เป็น​อยู่​แล้ว​ตั้งแต่แรก​เริ่ม เรา​ได้​ฟัง เรา​ได้​เห็นด้วย​ตา​ของ​เรา เรา​ได้​เฝ้า​มอง และ​เรา​ได้​สัมผัส​ด้วย​มือ​ของ​เรา

1ยน. 1:2 ​ชีวิต​นั้น​ได้​ปรากฏ เรา​ได้​เห็น​และ​ได้​เป็น​พยาน เรา​ประกาศ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้​ถึง​ชีวิต​นิรันดร ซึ่ง​อยู่​กับ​พระ​บิดา และ​ปรากฏ​ให้​เรา​เห็น

1ยน. 1:3 ​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​เห็น​และ​ได้​ฟัง​นี้ เรา​ประกาศ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้​ด้วย เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​สนิท​สัมพันธ์กับ​เรา ​ความ​สนิท​สัมพันธ์​นี้​คือ​ความ​สนิท​สัมพันธ์​กับ​พระ​บิดา และ​กับ​พระ​บุตร​ของ​พระ​องค์ คือ​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า

1ยน. 1:4 ​เรา​เขียน​เรื่อง​นี้​ถึง​ท่าน เพื่อ​ความ​ปิติยินดี​ของ​เราจะ​ได้​สมบูรณ์​

1ยน. 1:5 ​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​ฟัง​จาก​พระ​องค์ และ​เรา​กำลัง​ประกาศ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้ คือ ​พระ​เจ้า​ทรง​เป็น​ความ​สว่าง และ​ไม่​มี​ความ​มืด​ใดๆ อยู่​ใน​พระ​องค์​เลย

1ยน. 1:6 ​ถ้า​เรา​พูด​ว่า เรา​สนิท​สัมพันธ์​กับ​พระ​องค์ แต่​ยัง​ดำเนิน​ชีวิต​อยู่​ใน​ความ​มืด เรา​ก็​กำลัง​พูด​เท็จ เพราะ​เรา​ไม่​ดำเนิน​ชีวิต​อยู่​ใน​ความ​จริง

1ยน. 1:7 ​แต่​ถ้า​เรา​ดำเนิน​ชีวิต​ใน​ความ​สว่าง ดังที่​พระ​องค์​ทรง​ดำรง​อยู่​ใน​ความ​สว่าง​แล้ว เรา​ทุก​คน​ก็​สนิท​สัมพันธ์​กันด้วย และ​พระ​โลหิต​ของ​พระ​เยซู​เจ้า ​พระ​บุตร​ของ​พระ​องค์ ก็​ชำระ​เรา​ให้​สะอาด​จาก​บาป​ทั้งปวง​

1ยน. 1:8 ​ถ้า​เรา​พูด​ว่า “เรา​ไม่​มี​บาป” เรา​กำลัง​หลอก​ตนเอง และ “ความ​จริง” ไม่​อยู่​ใน​เรา

1ยน. 1:9 ​​พระ​องค์​ทรง​ซื่อสัตย์​และ​ทรง​เที่ยงธรรม ถ้า​เรา​สารภาพ​บาป ​พระ​องค์​จะ​ทรง​อภัย​บาป​ของ​เรา และ​จะ​ทรง​ชำระ​เรา​ให้​สะอาด​จาก​ความ​อธรรม​ทั้งปวง

1ยน. 1:10 ​ถ้า​เรา​พูด​ว่า “เรา​ไม่​เคย​ทำ​บาป” เรา​ก็​ทำ​ให้​พระ​องค์​ตรัส​คำ​เท็จ และ​พระ​วาจา​ของ​พระ​องค์​ไม่​อยู่​ใน​เรา​


2เปโตร บทที่3





2ปต. 3:1 ​ท่าน​ที่รัก​ทั้ง​หลาย นี่​เป็น​จดหมาย​ฉบับ​ที่​สองที่​ข้าพ​เจ้า​เขียน​ถึง​ท่าน จดหมาย​ทั้ง​สอง​ฉบับ​นี้​ข้าพ​เจ้า​พยายาม​เตือน​ความ​ทรงจำ​ให้​ท่าน​คิด​อย่าง​ถูกต้อง

2ปต. 3:2 ​จง​ระลึก​ถึง​คำพูด​ซึ่ง​บรรดา​ประ​กา​ศก​ผู้​ศักดิ์​สิทธิ์​กล่าว​ไว้​แล้ว และ​จง​ระลึก​ถึง​บท​บัญญัติ​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​และ​พระ​ผู้​ไถ่​ที่​บรรดา​อัคร​สาวก​เทศน์​สอน​ไว้​

2ปต. 3:3 ​จง​รู้​เถิด​ว่าเรื่อง​สำคัญ​ที่สุด คือ​ใน​ยุค​สุดท้ายจะ​มี​ผู้​เยาะเย้ย​ที่​ใช้​คำพูด​ถากถาง​ตาม​กิเลส​ตัณหา​ของ​ตน​พูด​ว่า

2ปต. 3:4 ​“พระ​สัญญา​ว่า​จะ​เสด็จ​มา​นั้น​อยู่​ที่ไหน ตั้งแต่​เวลา​ที่​บรรพบุรุษ​ของ​เราล่วง​หลับ​ไป​แล้ว ทุกสิ่ง​ยังคง​เป็น​อยู่​เหมือน​เดิม​ดัง​เมื่อ​ทรง​สร้าง​โลก”

2ปต. 3:5 ​เขา​เหล่า​นี้​แสร้ง​ลืม​ไป​ว่า ​พระ​วาจา​ของ​พระ​เจ้าสร้าง​สวรรค์​มา​นาน​แล้ว และ​ทรง​แยก​แผ่น​ดิน​จาก​น้ำ​และ​ให้​น้ำ​ล้อม​แผ่น​ดิน​ไว้

2ปต. 3:6 ​ต่อมา​พระ​องค์​ทรง​ทำลาย​โลก​ด้วย​น้ำ คือ​น้ำ​วิ​นาศ

2ปต. 3:7 ​บัดนี้​ก็​เช่นเดียวกัน ​พระ​วาจา​เดียวกัน​นี้​รักษา​สวรรค์​และ​แผ่น​ดิน​ไว้​เพื่อให้​ไฟ​เผาผลาญ คือ​เก็บ​ไว้​จนกว่า​จะ​ถึง​วัน​พิพากษา​และ​ทำลาย​คน​บาป

2ปต. 3:8 ​ท่าน​ที่รัก​ทั้ง​หลาย สิ่ง​หนึ่ง​ที่​ท่าน​ต้อง​ไม่​ลืม คือ​สำหรับ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เพียง​หนึ่ง​วัน​ก็​เหมือน​กับ​หนึ่ง​พัน​ปี และ​หนึ่ง​พัน​ปี​ก็​เหมือน​กับ​หนึ่ง​วัน

2ปต. 3:9 ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มิได้​ทรง​รีรอ​ที่​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​สัญญา​ดังที่​บาง​คน​คิด แต่​พระ​องค์​ทรง​อดกลั้น​ต่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย ไม่​ทรง​ประสงค์​ให้​ผู้ใด​ต้อง​พินาศ แต่​ทรง​ประสงค์​ให้​ทุก​คน​กลับใจเปลี่ยน​วิถีชีวิต

2ปต. 3:10 ​วัน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​มา​ถึง​อย่าง​ไม่​รู้ตัว​เหมือน​ขโมย วัน​นั้น​ท้องฟ้า​จะ​อันตรธาน​สูญสิ้น​ไป​ด้วย​เสียง​กึกก้อง โลก​ธาตุ​จะ​ลุกเป็นไฟ​แตก​แยก​จาก​กัน แผ่น​ดิน​และ​สรรพ​สิ่ง​ที่อยู่​บน​แผ่น​ดิน​จะ​มอด​ไหม้​สูญสิ้น​ไป

2ปต. 3:11 ​เมื่อ​ทุกสิ่ง​จะ​ต้อง​สลาย​ไป​เช่นนี้ ท่าน​จง​ตระหนัก​ว่า​จะ​ต้อง​ประพฤติ​ตน​อย่างไร จะ​ต้อง​ดำเนิน​ชีวิต​ให้​ศักดิ์​สิทธิ์​และ​มี​ความ​เลื่อมใส​ศรัทธา

2ปต. 3:12 ​รอคอย​วัน​ของ​พระ​เจ้า​และ​พยายาม​เร่ง​ให้​วัน​นั้น​มา​ถึง ใน​วัน​นั้น​ท้องฟ้า​จะ​ถูก​ไฟ​เผาผลาญ และ​โลก​ธาตุ​จะ​ถูก​ไฟ​เผา​ละลาย​ไป

2ปต. 3:13 ​เรา​กำลัง​รอคอย​ฟ้า​ใหม่​และ​แผ่น​ดิน​ใหม่ ซึ่ง​เป็น​ที่อยู่​ถาวร​ของ​ความ​ชอบ​ธรรม​ตาม​พระ​สัญญา

2ปต. 3:14 ​ดังนั้น ท่าน​ที่รัก​ทั้ง​หลาย ขณะที่​ท่าน​กำลัง​รอคอย​เหตุ​การณ์​เหล่า​นี้ จง​พยายาม​ให้​พระ​เจ้า​ทรง​พบ​ท่าน​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​สันติ​ปราศจาก​มลทิน​และ​ไร้​ข้อ​ตำหนิ

2ปต. 3:15 ​จง​คิด​เถิด​ว่า ​ความ​อดกลั้น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​คือ​ความ​รอด​พ้น​ของ​เรา ดังที่​เปาโล​น้อง​ที่รัก​ของ​เรา​เคย​เขียน​ถึง​ท่าน​ตาม​ปรีชา​ญาณ​ที่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน​ให้

2ปต. 3:16 ​เปา​โลก​ล่า​ว​ถึง​เรื่อง​เหล่า​นี้​ใน​จดหมาย​ทุก​ฉบับ​ของ​เขา อาจ​มี​บาง​ข้อ​ที่​เข้าใจ​ยากคน​โง่​และ​ใจ​โลเล​จึง​บิดเบือน​เสีย เหมือน​อย่าง​ที่​เขา​บิดเบือน​ข้อ​ความ​อื่นๆ ใน​พระ​คัมภีร์เป็น​เหตุ​ให้​ตนเอง​พินาศ

2ปต. 3:17 ​ท่าน​ที่รัก​ทั้ง​หลาย เมื่อ​ท่าน​รู้​ล่วง​หน้า​เช่นนี้​แล้ว จง​ระมัดระวัง​อย่า​ปล่อยตัว​ไป​ตาม​ความ​หลงผิด​ของ​คน​อธรรม และ​สูญเสีย​ความ​มั่นคง​ของ​ท่าน​ไป

2ปต. 3:18 ​จง​เจริญ​ขึ้น​ใน​พระ​หรรษ​ทาน​และ​ใน​ความ​รู้จัก​พระ​เยซู​คริสต์ องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​และ​พระ​ผู้​ไถ่​ของ​เรา ขอ​พระ​สิริ​รุ่งโรจน์​จง​มี​แด่​พระ​องค์​ทั้ง​ใน​ปัจจุบัน​และ​ตลอด​นิรันดร อา​เมน


2เปโตร บทที่2





2ปต. 2:1 ​ใน​อดีต เคย​มี​ผู้​ปลอม​ตน​เป็น​ประ​กา​ศก​ใน​หมู่​ประชากร​ของ​พระ​เจ้า ใน​หมู่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​มี​ผู้สอน​ผิด​ซึ่ง​พยายาม​สอดแทรก​ความ​คิด​มิจฉาทิฐิ​ที่​นำ​ความ​หายนะ​มา​สู่​ท่าน​เช่นเดียวกัน เขา​จะ​ปฏิเสธ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ทรง​ไถ่​เขา​ไว้ เขา​จึง​นำ​ความ​หายนะ​มา​สู่​ตน​อย่าง​รวดเร็ว

2ปต. 2:2 ​หลาย​คน​จะ​เดิน​ตาม​ความ​ประพฤติ​เสเพล​ของ​พวกเขา และ​ทาง​แห่ง​ความ​จริง​จะ​ถูก​กล่าวร้าย​เพราะ​คน​เหล่า​นี้

2ปต. 2:3 ​เขา​จะ​ใช้​ถ้อยคำ​ที่​หลอก​ลวง​แสวงหา​ผลประโยชน์​จาก​ท่าน​เพราะ​ความ​โลภ แต่​การ​ตัดสิน​ลงโทษ​พวกเขา​พร้อม​นาน​แล้ว และ​เขา​จะ​ได้​รับ​ความ​หายนะ​ใน​ไม่​ช้า

2ปต. 2:4 ​​พระ​เจ้า​ไม่​ทรง​ยับยั้ง​โทษ​ต่อ​ทูต​สวรรค์​ที่​ทำ​บาปแต่​ทรง​ผลัก​ทูต​สวรรค์​เหล่า​นั้น​ลง​ไป​ใน​ขุมนรก​มืดมิด และ​ควบคุม​ไว้​จนถึง​วัน​พิพากษา

2ปต. 2:5 ​​พระ​องค์​มิได้​ทรง​ยับยั้ง​โทษ​ต่อ​โลก​ใน​ยุค​แรก ทรง​ส่ง​น้ำ​วิ​นาศ​ทำลาย​โลก​ของ​คน​อธรรม แต่​ทรง​ไว้​ชีวิต​โน​อาห์​ผู้ประกาศ​ความ​ชอบ​ธรรม​พร้อมกับ​ที่​ทรง​ไว้​ชีวิต​คน​อื่น​อีก​เจ็ด​คน​ด้วย

2ปต. 2:6 ​​พระ​องค์​ทรง​ลงโทษ​เมือง​โสด​ม​และ​เมือง​โก​โม​ราห์​ให้​พินาศ​เป็น​เถ้า​ธุลีเพื่อ​เป็น​ตัวอย่าง​แก่​คน​อธรรม​ใน​อนาคต

2ปต. 2:7 ​​พระ​องค์​ทรง​ช่วย​ชีวิต​ของ​โลท​ให้​รอด​พ้น​เพราะ​เขา​เป็น​ผู้​ชอบ​ธรรม​และ​ถูก​บีบคั้น​จิตใจ​จาก​ความ​ประพฤติ​ชั่วร้าย​ของ​คน​อธรรม​เหล่า​นั้น

2ปต. 2:8 ​ผู้​ชอบ​ธรรม​คน​นี้​อยู่​ใน​หมู่​คน​อธรรม เขา​ได้​เห็น​ได้ยิน​การ​กระทำ​เลวร้าย​ของ​คน​เหล่า​นี้​อยู่​ทุก​วัน ทำ​ให้​จิตใจ​ที่​ชอบ​ธรรม​ของ​เขา​เป็นทุกข์

2ปต. 2:9 ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​ช่วย​ผู้​เลื่อมใส​ศรัทธา​ให้​พ้น​จาก​การ​ทดลอง​ได้ และ​ทรง​กัน​คน​อธรรม​ไว้​ให้​รับโทษ​เมื่อ​ถึง​วัน​พิพากษา

2ปต. 2:10 ​โดย​เฉพาะ​ผู้​ที่​ปล่อย​ตน​ตาม​รา​ค​ตัณหา​ตาม​ธรรม​ชาติ​มนุษย์ และ​ดูหมิ่น​อำนาจ​ของ​พระ​เจ้า ○ผู้สอน​ผิด​เหล่า​นี้​ก้าวร้าว หยิ่ง​ยโส ไม่​เกรงกลัว​ที่​จะ​ล่วงเกิน​บรรดา​จิต​ที่​ทรง​สิริ​รุ่งโรจน์

2ปต. 2:11 ​แม้แต่​ทูต​สวรรค์​ผู้​ทรง​พลัง​และ​อำนาจ​มาก​กว่า​ยัง​ไม่​กล่าว​หา​พวกเขา​เฉพาะ​พระ​พักตร์​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า

2ปต. 2:12 ​แต่​คน​เหล่า​นี้​ประพฤติ​เหมือน​กับ​สัตว์​เดียรัจฉาน​ประเภท​ที่​ตาม​ธรรม​ชาติ​เกิด​มา​เพื่อ​ถูก​จับ​ไป​ฆ่า เขา​ล่วงเกิน​สิ่ง​ที่​เขา​ไม่​เข้าใจ เขา​จะ​ถูก​ทำลาย​เช่น​เดียว​กับ​สัตว์​เดียรัจฉาน

2ปต. 2:13 ​จะ​ถูก​ลงโทษ​เป็น​การ​ตอบแทน​ความ​อธรรม​ของ​เขา เขา​คิด​ว่า​ความ​สนุกสนาน​เพียง​หนึ่ง​วันเป็น​ความ​สุข​แล้ว เขา​ทำ​ตน​มี​มลทิน​น่า​รังเกียจ พึงพอใจ​สนุกสนาน​กับ​การ​หลอก​ลวง​แม้​ขณะ​กำลัง​ร่วม​ฉลอง​อยู่​กับ​ท่าน

2ปต. 2:14 ​มี​นัยน์ตา​เจ้าชู้ ทำ​บาป​โดย​ไม่​สิ้นสุด คอย​ล่อลวง​คน​ที่​มี​ใจ​โลเล มี​จิตใจ​ละโมบ คน​พวก​นี้​จะ​ถูก​พระ​เจ้า​สาปแช่ง

2ปต. 2:15 ​เขา​ทิ้ง​หนทาง​ตรง​หลง​ไป​ตาม​ทาง​ของ บา​ลา​อัม ​บุตร​ของ​โบ​สอร์บา​ลา​อัม​ต้อง​การ​ผลประโยชน์​จาก​ความ​อธรรม

2ปต. 2:16 ​แต่​ลา​ใบ้​ตัว​หนึ่ง​พูด​ภาษา​มนุษย์​ตำหนิ​ความ​ผิด​ของ​เขา คำตำหนิ​นั้น​ยับยั้ง​ความ​บ้า​ของ​ประ​กา​ศก​ผู้​นี้

2ปต. 2:17 ​ผู้สอน​ผิด​เหล่า​นี้​เป็น​ตาน้ำ​ที่​ไม่​มี​น้ำ เป็น​เมฆ​ที่​ถูก​พายุ​พัด​ไป ​พระ​เจ้า​ทรง​เตรียม​ความ​มืดมิด​ไว้​สำหรับ​เขา​แล้ว

2ปต. 2:18 ​เขา​พูด​โอ้อวด​ไร้​สาระ ใช้​ความ​ใคร่​ใน​กิเลส​ตัณหา​ล่อลวง​ผู้​ที่​เพิ่งหนีพ้น​จาก​ความ​ประพฤติ​ผิด

2ปต. 2:19 ​เขา​สัญญา​จะ​ให้​อิสรภาพแต่​ตนเอง​ยัง​เป็น​ทาส​ของ​ความ​เสื่อม เพราะ​ผู้ใด​พ่ายแพ้​สิ่งใด ย่อม​เป็น​ทาส​ของ​สิ่ง​นั้น

2ปต. 2:20 ​ผู้ใด​ก็ตาม​ที่​หนีพ้น​ความ​เสื่อม​ของ​โลก​เมื่อ​ได้​รู้จัก​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​และ​พระ​ผู้​ไถ่​ของ​เรา​แล้ว ถ้า​เขา​กลับ​ไป​ติด​บ่วงและ​พ่ายแพ้​ความ​เสื่อม​นี้​อีก บั้นปลาย​ของ​เขา​ก็​จะ​ประสบ​สิ่ง​ร้าย​ยิ่ง​กว่า​ตอน​ต้น

2ปต. 2:21 ​การ​ที่​เขา​ไม่​เคย​รู้จัก​ทาง​แห่ง​ความ​ชอบ​ธรรม​เลย ยัง​ดี​กว่า​การ​ที่​เขา​รู้​ทาง​แห่ง​ความ​ชอบ​ธรรม​แล้ว แต่​กลับ​หัน​หลัง​ให้​บท​บัญญัติ​ศักดิ์​สิทธิ์​ที่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน

2ปต. 2:22 ​เขา​ประพฤติ​ตรง​กับ​สุภาษิต​ที่​กล่าว​ไว้​ว่า “สุนัข​กลับ​มา​กิน​สิ่ง​ที่​มัน​สำรอก” และ “สุกร​ที่​เพิ่ง​อาบน้ำ​กลับ​ไป​กลิ้งเกลือก​โคลน​อีก”


การเปิดเผยอันศักดิ์สิทธิ์มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

การเปิดเผยอันศักดิ์สิทธิ์มาจากพระวิญญาณ
2ปต. 1:20 จงรู้เถิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการตีความถ้อยคำของบรรดาประกาศกในพระคัมภีร์มิใช่เรื่องส่วนบุคคล
2ปต. 1:21 เพราะไม่เคยมีถ้อยคำใดของบรรดาประกาศกที่มาจากเจตนารมณ์ของมนุษย์ แต่มนุษย์กล่าวถ้อยคำซึ่งมาจากพระเจ้าตามที่พระจิตเจ้าทรงดลใจ
อ่านตรงนี้แล้วพี่น้องต้องระมัดระวังในการตีความพระคำของพระเจ้ามาจากความนึกคิดอารมณ์ความรู้สึก 
แต่ส่วนใหญ่ก็ตีความแบบอารมณ์คิดมาจากสภาพแวดล้อมความพื้นฐานดั่งเดิมของมนุษย์ทั้งนั้น
ตรงนี้ภัยอันตรายทั้งนั้น
การตีความต้องมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
ที่เราต้องแสวงหาด้วยความอดทนนาน
ไม่ใช่ตีความแบบคริสเตียนทารกส่งๆๆไป เปโตรเตือนสติในวันนี้ให้เราต้องระมัดระวังการตีความที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลส่วนตัว อย่านำความรู้ส่วนตัวประสบการณ์เนื้อหนังมาเจือปนกับพระคำอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าเด็ดขาด
ไม่เช่นนั้นผลที่ได้จะตกแก่ผู้ตีความผิดนั่นเอง. เอเมน

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

1เปโตร บทที่5


1ปต. 5:1 ​โดย​เหตุ​ที่​ข้าพ​เจ้า​เป็น​ผู้อาวุโส​คน​หนึ่ง เป็น​พยานถึง​พระ​ทรมาน​ของ​พระ​คริสต​เจ้า และ​มี​ส่วน​จะ​รับ​พระ​สิริ​รุ่งโรจน์​ที่​จะ​ปรากฏ​ใน​อนาคต​ด้วยข้าพ​เจ้า​ขอร้อง​บรรดา​ผู้อาวุโสใน​กลุ่ม​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย
1ปต. 5:2 ​จง​เลี้ยงดู​ฝูง​แกะ​ของ​พระ​เจ้า​ที่อยู่​ใน​ความ​ดูแล​ของ​ท่าน จง​ดูแล​ด้วย​ความ​เต็มใจ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้ามิใช่​ดูแล​ด้วย​จำใจ จง​ดูแล​ด้วย​ความ​สมัครใจ มิใช่​ดูแล​เพราะ​เห็นแก่​อามิส​สินจ้าง
1ปต. 5:3 ​จง​เป็น​แบบอย่าง​แก่​ฝูง​แกะมิใช่​เป็น​เหมือน​เจ้านาย​เหนือ​ผู้​ที่อยู่​ใต้​ปกครอง
1ปต. 5:4 ​เมื่อ​พระ​คริสต​เจ้า​พระ​ผู้​เลี้ยง​สูงสุดจะ​ทรง​แสดง​พระ​องค์ ท่าน​จะ​ได้​รับ​สิริ​รุ่งโรจน์​เป็น​มงกุฎ​ที่​ไม่​มี​วัน​ร่วงโรย​เลย​
1ปต. 5:5 ​คน​หนุ่ม​ทุก​คนจง​อยู่​ใต้​อำนาจ​บรรดา​ผู้อาวุโส จง​มี​ความ​ถ่อม​ตน​ต่อ​กัน​เถิด​เพราะ​พระ​เจ้า​ทรง​ต่อต้าน​คน​เย่อหยิ่ง​จองหอง แต่​ประ​ทาน​พระ​หรรษ​ทาน​แก่​ผู้​ถ่อม​ตน​
1ปต. 5:6 ​ดังนั้น จง​ถ่อม​ตน​ลง​อยู่​ใต้​พระ​หัตถ์​ทรง​ฤทธิ์​ของ​พระ​เจ้า เพื่อ​พระ​องค์​จะ​ได้​ทรง​ยกย่อง​ท่าน​ขึ้น​เมื่อ​ถึง​เวลา​อัน​ควร
1ปต. 5:7 ​จง​ละ​ความ​กระวนกระวาย​ทั้งมวล​ของ​ท่าน​ไว้​กับ​พระ​องค์ เพราะ​พระ​องค์​ทรง​ห่วงใย​ท่าน
1ปต. 5:8 ​จง​มี​สติ​สัมปชัญญะ​และ​ตื่นตัว​อยู่​เสมอ เพราะ​ศัตรู​ของ​ท่าน​คือ​มารกำลัง​ดัก​วนเวียน​อยู่​รอบๆ ดุจ​สิงห์โต​คำราม เสาะหา​คน​ที่​มัน​จะ​กัด​กิน​ได้
1ปต. 5:9 ​จง​ต่อสู้​มัน​ด้วยใจ​มั่นคง​ใน​ความ​เชื่อ จง​รู้​ว่า​บรรดา​พี่​น้อง​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​ทั่วโลก​ก็​ประสบ​ความ​ทุกข์​ลำบาก​เช่นเดียวกัน
1ปต. 5:10 ​และ​เมื่อ​ท่าน​ได้​ทนทุกข์​อยู่​ชั่วขณะ​หนึ่ง​แล้ว ​พระ​เจ้า​ผู้​ประ​ทาน​พระ​หรรษ​ทาน​ทุก​ประการ ผู้​ทรง​เรียก​ท่าน​ให้​มา​รับ​พระ​สิริ​รุ่งโรจน์​นิรันดร​ใน​พระ​คริสต​เจ้า จะ​ทรง​ฟื้นฟู​ท่าน​ให้​มั่นคง มี​กำลัง​เข้มแข็ง และ​จะ​ทรง​พยุง​ท่าน​ไว้
1ปต. 5:11 ​ขอ​พระ​อานุภาพจง​มี​แด่​พระ​องค์​ตลอด​นิรันดร อา​เมน​
1ปต. 5:12 ​ข้าพ​เจ้า​เขียน​จดหมาย​สั้นๆ ฉบับ​นี้ ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​สิ​ล​วา​นัส​ซึ่ง​ข้าพ​เจ้า​นับถือ​ว่า​เป็น​พี่​น้อง​ที่​ซื่อสัตย์ ข้าพ​เจ้า​เตือนสติ​ท่าน​และ​ยืนยัน​ว่า​นี่​เป็น​พระ​หรรษ​ทาน​แท้​จริง​ของ​พระ​เจ้า จง​ยืนหยัด​มั่นคง​ใน​พระ​หรรษ​ทาน​นี้​เถิด
1ปต. 5:13 ​​พระ​ศาสน​จักร​ที่​กรุง​บา​บิ​โลน​ซึ่ง​พระ​เจ้า​ทรง​เลือกสรร​ไว้​เช่น​เดียว​กับที่​ได้​ทรง​เลือกสรร​ท่านขอ​ฝาก​ความ​คิด​ถึง​ท่าน มา​ระ​โก​บุตร​ของ​ข้าพ​เจ้า​ก็​ฝาก​ความ​คิด​ถึง​ท่าน​ด้วย
1ปต. 5:14 ​จง​ทักทาย​กัน​ด้วย​การ​จุมพิต​แสดง​ความ​รัก ขอ​สันติสุข​จง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ซึ่ง​ดำรง​อยู่​ใน​พระ​คริสต​เจ้า​เถิด




1เปโตร บทที่4





1ปต. 4:1 ​เนื่องจาก​พระ​คริสต​เจ้า​ทรง​รับ​ทรมาน​ใน​พระ​วรกาย​มา​แล้ว ท่าน​ทั้ง​หลาย​จึง​ต้อง​มี​ความ​รู้สึก​นึกคิด​เช่น​เดียว​กับ​พระ​องค์​เป็น​ประดุจ​อาวุธ ผู้​ที่​รับ​ทรมาน​ใน​ร่างกาย​แล้ว​ก็​ตัดขาด​จาก​บาป

1ปต. 4:2 ​เขา​จึง​ไม่​เป็น​ทาส​ของ​กิเลส​ตัณหา​ตาม​ธรรม​ชาติ​มนุษย์​อีก​ต่อไป แต่​ดำเนิน​ชีวิต​ที่​ยัง​เหลือ​อยู่​ใน​โลก​นี้​เพื่อ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้า​

1ปต. 4:3 ​ใน​อดีต​ท่าน​ใช้เวลา​นาน​พอ​แล้ว​ใน​การ​กระทำ​สิ่ง​ที่​คน​ต่าง​ศาสนา​ชอบ​ปฏิบัติ คือ ​ความ​ลามก​โสมม ปล่อยตัว​ตาม​รา​ค​ตัณหา ดื่ม​สุรา​เมามาย ร่วม​กลุ่ม​เสพ​เมถุน ร่วมงาน​เลี้ยง​กิน​ดื่ม​เกิน​ขนาด นับถือ​รูป​เคารพ​อย่าง​น่า​ละอาย

1ปต. 4:4 ​แต่​บัดนี้ คน​ต่าง​ศาสนา​เหล่า​นั้น​ประ​หลาด​ใจ​ที่​ท่าน​ไม่​ร่วม​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​กระแส​แห่ง​ความ​พินาศกับ​พวกเขา​อีก​ต่อไป เขา​เหล่า​นั้น​จึง​กล่าวร้าย​ท่าน

1ปต. 4:5 ​เขา​จะ​รายงาน​ต่อ​ผู้​ที่​จะ​ต้อง​พิพากษา​ผู้​เป็น​และ​ผู้ตาย

1ปต. 4:6 ​เพราะเหตุนี้​ข่าว​ดี​จึง​ได้​รับ​การ​ประกาศ​แก่​บรรดา​ผู้ตาย​ด้วยเพื่อ​ผู้ตาย​เหล่า​นั้น​ที่​ได้​รับโทษ​ทาง​กาย​ตาม​ธรรม​ชาติ​มนุษย์​จะ​ได้​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​วิถี​ของ​พระ​เจ้า เดชะ​พระ​จิต​เจ้า​

1ปต. 4:7 ​ทุกสิ่ง​ใกล้​อวสาน​แล้วดังนั้น จง​มี​ความ​สุขุม​รอบคอบ รู้จัก​ประ​มาณตน​เพื่อ​อธิษ​ฐาน​ภาวนา

1ปต. 4:8 ​ที่​สำคัญ​ที่สุด จง​มี​ความ​รัก​กัน​อย่าง​มั่นคง เพราะ​ความ​รัก​ลบล้าง​บาป​ได้​มากมาย

1ปต. 4:9 ​จง​ต้อนรับ​กัน​โดย​ไม่​ปริปาก​บ่น

1ปต. 4:10 ​แต่ละ​คน​จง​ใช้​พระ​พร​ที่​ได้​รับ​มา​เพื่อ​รับใช้​กันประดุจ​ผู้จัดการ​ที่​ดี​เพื่อ​แจกจ่าย​พระ​หรรษ​ทาน​หลากหลาย​ของ​พระ​เจ้า​

1ปต. 4:11 ​ถ้า​จะ​กล่าว​วาจา​ใด ก็​จง​กล่าว​ดุจ​กล่าว​พระ​วาจา​ของ​พระ​เจ้าผู้ใด​มี​หน้าที่​รับใช้ก็​จง​รับใช้​ตาม​กำลัง​ที่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน​ให้ เพื่อ​พระ​เจ้า​จะ​ได้​รับ​พระ​สิริ​รุ่งโรจน์​ใน​ทุกสิ่ง​เดชะ​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า ผู้​ทรง​พระ​สิริ​รุ่งโรจน์​และ​พระ​อานุภาพ​ตลอด​นิรันดรอา​เมน​

1ปต. 4:12 ​ท่าน​ที่รัก​ยิ่ง อย่า​ประ​หลาด​ใจ​ต่อ​การ​เบียด​เบียน​ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​เป็น​การ​ทดสอบ​ท่าน​ทั้ง​หลาย ประหนึ่ง​ว่า​เหตุ​การณ์​เหล่า​นี้​เป็น​เหตุ​การณ์​ประหลาด

1ปต. 4:13 ​แต่​จง​ชื่นชม​ใน​การ​ที่​ท่าน​มี​ส่วนร่วม​รับ​ทรมาน​กับ​พระ​คริสต​เจ้า เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​มี​ความ​ชื่นชม​และ​ปลื้ม​ปิติ​ยิ่ง​ขึ้น​เมื่อ​พระ​องค์​ทรง​สำแดง​พระ​สิริ​รุ่งโรจน์

1ปต. 4:14 ​ถ้า​ท่าน​ถูก​ด่า​ว่า​เพราะ​พระ​นาม​ของ​พระ​คริสต​เจ้า​ท่าน​ย่อม​เป็นสุข เพราะ​พระ​จิต​ผู้​ทรง​สิริ​รุ่งโรจน์​พระ​จิต​ของ​พระ​เจ้า​สถิต​อยู่​กับ​ท่าน

1ปต. 4:15 ​อย่า​ให้​ท่าน​ใด​ต้อง​รับ​ทรมาน​เพราะ​เป็น​ฆาตกร เป็น​ขโมย เป็น​อาชญากร​หรือ​เป็น​ผู้​ละเมิด​สิทธิ​ของ​ผู้อื่น

1ปต. 4:16 ​แต่​ถ้า​ผู้ใด​รับ​ทรมาน​เพราะ​เป็น​คริสต​ชน ก็​จง​อย่า​อับอาย แต่​จง​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระ​เจ้า​เพราะ​ชื่อ​นี้

1ปต. 4:17 ​ถึง​เวลา​แล้ว​ที่​การ​พิพากษา​จะ​เริ่มต้น​จาก​บ้าน​ของ​พระ​เจ้า และ​ถ้า​การ​พิพากษา​เริ่ม​จาก​เรา ผู้​ที่​ไม่​ยอม​เชื่อฟัง​ข่าว​ดี​จาก​พระ​เจ้า​จะ​มี​จุดจบ​อย่างไร

1ปต. 4:18 ​ถ้า​ผู้​ชอบ​ธรรม​เกือบจะ​ไม่​รอด​พ้น​แล้ว จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​ผู้​ที่​ไม่​นับถือ​พระ​เจ้า​และ​คน​บาป​เล่า

1ปต. 4:19 ​ดังนั้น ผู้​ที่​รับ​ทรมาน​เพราะ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้า จง​ทำ​ความ​ดี​ต่อไป​และ​จง​มอบ​ชีวิต​ของ​ตน​ไว้​ใน​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​ผู้สร้าง​ผู้​ทรง​ความ​ซื่อสัตย์


1เปโตร บทที่3





1ปต. 3:1 ​ภรรยา​จง​อยู่​ใต้​อำนาจ​สามี ถ้า​สามี​บาง​คน​ยัง​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​วาจา ​ความ​ประพฤติ​ของ​ภรรยา​จะ​ชนะใจ​สามี​ได้​โดย​ไม่​ต้อง​พูด

1ปต. 3:2 ​สามี​เพียง​แต่​เห็น​การ​ดำเนิน​ชีวิต​ที่​บริสุทธิ์​และ​น่า​เคารพ​ของ​ภรรยา​เท่านั้น

1ปต. 3:3 ​ท่าน​อย่า​ประดับ​ตน​เพียง​ภายนอก เช่น​ตกแต่ง​ผม​อย่าง​ประณีต สวม​สร้อย​ทอง​หรือ​เสื้อผ้า​หรูหรา

1ปต. 3:4 ​แต่​จง​ประดับ​ตน​ใน​ส่วน​ลึก​ของ​จิตใจ​ให้​งดงาม​อย่าง​ถาวร​โดย​มี​ใจอ่อน​โยน​และ​สงบเสงี่ยม ​ความ​งาม​เช่นนี้​มี​ค่า​ยิ่ง​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า

1ปต. 3:5 ​ใน​อดีต​บรรดา​สตรี​ศักดิ์​สิทธิ์​ผู้​มี​ความ​หวัง​ใน​พระ​เจ้า​ประดับ​ตน​เช่นนี้ เธอ​เหล่า​นั้น​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​สามี

1ปต. 3:6 ​เช่น​นาง​ซา​ราห์​เชื่อฟัง​อับ​รา​ฮัม​และ​เรียก​เขา​เป็น​นาย ถ้า​ท่าน​ทำ​ความ​ดี​และ​ไม่​กลัว​ความ​ยาก​ลำบาก​ใดๆ ท่าน​ก็​เป็น​บุตร​หญิง​ของ​นาง​ซา​ราห์​ด้วย

1ปต. 3:7 ​เช่นเดียวกัน สามี​ต้อง​ร่วมชีวิต​กับ​ภรรยา​โดย​คำนึง​ว่า​สตรี​เป็น​เพศ​ที่​อ่อน​แอ กว่า จง​ให้​เกียรติ​ภรรยา​ใน​ฐานะ​ที่​เธอ​ร่วม​เป็น​ทายาทรับ​ชีวิต​เป็น​ของ​ประ​ทาน​จาก​พระ​เจ้า ดังนี้ จะ​ไม่​มี​อุปสรรค​ใด​ขัดขวาง​มิ​ให้​ท่าน​ร่วม​กัน​อธิษ​ฐาน​ภาวนา​

1ปต. 3:8 ​สุดท้าย​นี้ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​มี​ความ​คิด​เห็น​พ้อง​ต้องกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข​ด้วย​กัน รัก​กัน​ฉัน​พี่​น้อง เห็นใจ​กัน​และ​รู้จัก​ถ่อม​ตน

1ปต. 3:9 ​อย่า​ตอบโต้​ความ​ชั่ว​ด้วย​ความ​ชั่ว อย่า​ด่า​ตอบ​ผู้​ที่​ด่า​ท่าน แต่​ตรงกันข้าม จง​อวย​พร​เขา เพราะ​พระ​เจ้า​ทรง​เรียก​ท่าน​มา​ก็​เพื่อให้​รับ​พระ​พร

1ปต. 3:10 ​ดังที่​พระ​คัมภีร์​กล่าว​ว่า ผู้ใด​รัก​ชีวิต และ​ปรารถนา​จะ​มี​ความ​สุข​ถาวร จง​บังคับ​ลิ้น ไม่​พูด​คำ​เลวร้าย จง​บังคับ​ริมฝีปาก ไม่​พูด​คำ​หลอก​ลวง

1ปต. 3:11 ​จง​หลีกหนี​ความ​ชั่ว​และ​จง​กระทำ​ความ​ดี จง​แสวงหา​สันติ​และ​ยึด​ไว้​ให้​ได้

1ปต. 3:12 ​เพราะ​พระ​เจ้า​ทอด​พระ​เนตร​ผู้​ชอบ​ธรรม ทรง​เอียง​พระ​กรรณ​สดับ​เสียงร้อง​ของ​เขา แต่​พระ​พักตร์​ของ​พระ​องค์​มึนตึง​ต่อ​ผู้​ที่​กระทำ​ความ​ชั่ว​

1ปต. 3:13 ​ใคร​จะ​ทำร้าย​ท่าน​ได้​ถ้า​ท่าน​มุ่งมั่น​ใน​ความ​ดี

1ปต. 3:14 ​ถ้า​ท่าน​จะ​ต้อง​ทนทุกข์​ทั้งๆ ที่​ทำ​ความ​ดี​แล้ว ก็​จง​เป็นสุข​เถิด อย่า​กลัว​เขา อย่า​วุ่นวาย​ใจ​เลย

1ปต. 3:15 ​แต่​จง​นมัสการองค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าคือ​พระ​คริสต​เจ้า​ใน​จิตใจ​ของ​ท่าน จง​พร้อม​เสมอ​ที่​จะ​ให้​คำอธิบาย​แก่​ทุก​คน​ที่​ต้อง​การ​รู้​เหตุผล​แห่ง​ความ​หวัง​ของ​ท่าน

1ปต. 3:16 ​จง​อธิบาย​ด้วย​ความ​อ่อนโยน​และ​ด้วย​ความ​เคารพ​อย่าง​บริสุทธิ์ใจ เพื่อ​เมื่อ​ท่าน​ถูก​ใส่ร้าย ผู้​ที่​กล่าวร้าย​ความ​ประพฤติ​ดี​ของ​ท่าน​ตาม​คำสอน​ของ​พระ​คริสต​เจ้า ก็​จะ​ต้อง​ประสบ​ความ​อับอาย หาก​เป็น​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้า การ​ทนทุกข์​เพราะ​ทำ​ความ​ดี​นั้น

1ปต. 3:17 ​ย่อม​ดี​กว่า​การ​ทนทุกข์​เพราะ​ทำ​ความ​ชั่ว​

1ปต. 3:18 ​​พระ​คริสต​เจ้า​สิ้น​พระ​ชนม์​เพียง​ครั้ง​เดียว​เพราะ​บาป ​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ชอบ​ธรรม​สิ้น​พระ​ชนม์​เพื่อ​คน​อธรรม ​พระ​องค์​จะ​ทรง​นำ​เรา​ไป​เฝ้า​พระ​เจ้า​พระ​องค์​ทรง​ถูก​ประหาร​ใน​สภาพ​มนุษย์ แต่​พระ​จิต​เจ้า​ประ​ทาน​ชีวิต​ให้​พระ​องค์​อีก

1ปต. 3:19 ​​พระ​จิต​เจ้า​ยัง​ทรง​นำ​พระ​องค์​ไป​ประกาศ​ความ​รอด​พ้น​แก่​จิต​ที่​ถูก​จองจำ

1ปต. 3:20 ​ใน​กาล​ก่อน จิต​เหล่า​นี้​ไม่​ยอม​เชื่อฟัง​เมื่อ​พระ​เจ้า​ทรง​อดทน​รอคอย ขณะที่​โน​อาห์​กำลัง​ต่อ​เรือ ซึ่ง​ช่วย​ชีวิต​คน​จำนวน​น้อย นั่น​คือ​เพียง​แปด​ชีวิต​ให้​รอด​พ้น​จาก​น้ำ​วิ​นาศ

1ปต. 3:21 ​น้ำ​นั้น​เป็น​รูปแบบของ​ศีล​ล้าง​บาป​ที่​ช่วย​ท่าน​ให้​รอด​พ้น​ใน​เวลา​นี้ มิใช่​เป็น​การ​ชำระล้าง​มลทิน​ทาง​ร่างกายแต่​เป็น​การ​วอน​ขอต่อ​พระ​เจ้า​ด้วย​มโนธรรม​บริสุทธิ์​เดชะ​การ​กลับคืน​พระ​ชนม​ชีพ​ของ​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า

1ปต. 3:22 ​ผู้​เสด็จ​สู่​สวรรค์​และ​ประทับ ณ เบื้องขวา​ของ​พระ​เจ้า​โดย​มี​ทูต​สวรรค์​ทั้ง​ศักดิ​เทพ​และ​อิทธิ​เทพ​ทั้ง​หลาย​อยู่​ใต้​พระ​อำนาจ​ของ​พระ​องค์


ขอความรักดั่งเดิมเปลี่ยนแปลงข้าพระองค์เป็นศิลาเป็นปุโรหิตหลวงเป็นวัสดุลำค่าของพระเจ้า

มธ.16:18 ฝ่ายเราบอกแก่ท่านอีกว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้และประตูแห่งแดนมรณาไม่อาจมีชัยชนะต่อคริสตจักร.
1ปต.2:4–5 เมื่อท่านทั้งหลายมาหาพระองค์ผู้เป็นศิลาที่มีชีวิตอยู่ ซึ่งมนุษย์ได้ปฏิเสธ แต่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้และทรงให้ความล้ำค่า ท่านทั้งหลายก็ดุจศิลาที่มีชีวิตซึ่งกำลังถูกก่อสร้างขึ้นเป็นพระวิหารฝ่ายวิญญาณกลายเป็นระบบกลุ่มปุโรหิตที่แบ่งแยกบริสุทธิ์ เพื่อถวายเครื่องบูชาฝ่ายวิญญาณ ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าโดยพระเยซูคริสต์.
วว.21:19 ฐานรากทั้งหลายของกำแพงเมืองนั้นประดับด้วยเพชรพลอยนานาชนิด...
โยฮัน 1:42 มีคำว่า “ศิลา” (เปโตร). มัดธาย 16:18 มี “ศิลา” (เปโตร) 1 โกรินโธ 3:12 มี “ศิลา” (เพชรพลอย) 1 เปโตร 2:5 มี “ศิลา” (ศิลาที่มีชีวิต) และวิวรณ์ 21:19 ก็มี “ศิลา” (เพชรพลอย). ในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าพวกเราล้วนเป็นศิลา
ซีโมนมาพบกับพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าก็เปลี่ยนชื่อให้กับเขาทันทีว่าเปโตร—ศิลา.
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ท่านคือเปโตรและบนศิลานี้เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้”.
เปโตรก็ได้บอกวิสุทธิชนทั้งหลายว่าพวกเขาก็คือศิลาที่มีชีวิตอยู่ซึ่งกำลังก่อสร้างกลายเป็นพระวิหารฝ่ายวิญญาณ.
โยฮันก็ได้ให้ถ้อยคำสรุปของพันธสัญญาใหม่ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นถ้อยคำสรุปของพระคัมภีร์ทั้งเล่มอีกด้วย. ท่านได้กล่าวว่ากำแพงเมืองของกรุงเยรูซาเล็มใหม่สร้างด้วยแก้วมณีโชติ ซึ่งเป็นเพชรพลอยชนิดหนึ่งและฐานรากทั้งหลายของกำแพงเมืองนั้นก็ประดับด้วยเพชรพลอยนานาชนิด.
ช่วงท้ายของพระคัมภีร์ทั้งเล่มนั้น ได้มองเห็นการก่อสร้างอย่างหนึ่งที่ได้ก่อสร้างด้วยเพชรพลอยนานาชนิด
เปโตรก็คือหนึ่งในฐานรากสิบสองฐาน เพราะว่าบนฐานรากนั้นมีชื่อของอัครทูตทั้งสิบสองคน.
พี่น้องคริสเตียนทุกคนล้วนเป็นศิลาที่จะก่อสร้างขึ้นมากลายเป็นการก่อสร้างของพระเจ้า.
แต่วันนี้สภาพการที่ตกต่ำของคริสเตียนที่นำเรื่องเนื้อหนังเข้ามาปลอมปนมันทำให้พี่น้องคริสเตียนไม่ได้มีคุณสมบัติเหมาะที่จะเป็นศิลา การนำวิธีการทางโลกสารพัดวิธีที่เราจะคิดค้นได้นั้นไม่ได้เป็นมาจากพระเจ้ามาจากความรู้สึกนึกคิดของเราวิธีการแบบนี้ก็ไม่แตกต่างจากตอนที่เรายังไม่เชื่อพระเจ้าสักนิดเราจะใช้สมองเรานำคิดว่าสิ่งที่เราทำดีสารพัดแต่ไม่เลยเมื่อเรามาเชื่อพระเยซูคริสต์แล้วเราควรจะเป็นศิลาของพระเจ้าแต่เรากับไม่เป็นศิลาเราเป็นไม้ฟางหญ้าแห้งที่พร้อมจะโดนเผา 
การมาเชื่อในพระเจ้าเราล้วนพ้นยุคกฎบัญญัติแล้ว วันนี้เราไม่สภาพการต้องคิดค้นการทำดีต่อพระเจ้า แต่เราต้องให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงเราออกมาจากภายในวิญญาณของเรา 
เอเมนดังนั้นวันนี้เราอย่าให้จิตของเรากดทับวิญญาณของเราเพื่อให้วิญญาณของเราและพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าสำออกมาจากภายในสมกับที่เราเป็นคนใหม่ในพระคริสต์เป็นศิลาของพระเจ้าเป็นปุโรหิตหลวงที่แท้จริงของพระเจ้าที่แบ่งแยกบริสุทธิ์ขริงๆๆไม่ใช่เป็นเพียงแต่ชื่อเหมือนทุกวันนี้ดังที่เราเห็นสภาพการคริสเตียนตกต่ำ.
ทำไมองค์พระผู้เป็นเจ้ายังไม่เสด็จกลับมา. นี่ก็เป็นเพราะว่ายังไม่มีการก่อสร้าง
หากวันนี้พระเจ้ามาเราพร้อมกันแล้วหรือยังพี่น้องที่รักในพระคริสต์เราทั้งหลายยังไม่พร้อมสักนิด อ่านพระคัมภีร์กันหรือไม่ อธิษฐานกันหรือไม่ ส่วนใหญ่เราก็ทำแบบลวกๆๆขอไปทีเป็นพิธีการแล้วก็ผ่านเลยไปนี่คือสภาพคริสเตียนเนื้อหนังในทุกวันนี้รีบอ่านรีบอธิษฐานรีบประชุมไปวันๆๆขอให้ผ่านๆๆแต่ไม่ได้ทุ่มเทใจถวายด้วยหัวใจแห่งความรักความเชื่อความยำเกรงในพระคริสต์เราบอกว่าเรารักพระเจ้าแต่เรารีบๆๆทำแบบส่งๆๆนี่หรือเราเชื่อเรารักเรายำเกรงพระเจ้า หากสภาพการก่อสร้างแบบส่งเดชแบบนี้ก็อย่าหวังเลยที่เราจะโดนพระเจ้าลับไปดังขโมย. อธิษฐานแสวงหากลับใหม่เถิดพี่น้อง.
ชะตาชีวิตของเราก็มีเพื่อการก่อสร้างของพระองค์. พระคัมภีร์ได้ให้เรามองเห็นอย่างชัดเจนว่าเราต้องการการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงในชีวิต เพื่อการก่อสร้างของพระองค์.
เราเติบโตและเปลี่ยนแปลงใหม่ ทุกวันนี้ต้องพูดความจริงกันอย่าศรีธนชัยกันเลยพี่น้องคริสเตียนไทย 
เราบอกเราต้องเติบโตต้องเปลี่ยนแปลงแต่เราก็ละเลยอ่านพระคัมภีร์ ไม่อธิษฐานติดสนิท แต่เราจะทำแบบพิธีกรรมเหมือนอ่านพระคำแบบนกแก้วนกขุนทอง อธิษฐานก็ทำแบบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์เป็นรูปเคารพในชีวิตประจำวันเพื่อให้ดูขลัง อย่างนี้ไม่มีความเปลี่ยนแปลงแตกต่างจากสมัยยังไม่เชื่อพระเจ้าเลยสักนิด
วันนี้เป็นวันขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่าทำอะไรแบบส่งเดชขอไปทีรีบประชุมร้องเพลงเยอะๆๆอ่านพระคำน้อยๆๆฟังเทศน์นิดๆๆขอรีบๆๆ จะได้กลับไปเที่ยวไปเดินเล่นทางโลกต่อ อย่างนี้ก็ไม่มีการก่อสร้างไม่มีวัสดุทองคำเงินเพชรพลอยในการก่อสร้างของพระเจ้าสักนิด
จะเป็นศิลาแต่ไม่ทำตัวเหมือนศิลาก็เป็นได้แค่ไม้ฟางหญ้าแห้ง
จะเป็นปุโรหิตหลวงของพระเจ้าแต่ไม่แบ่งแยกบริสุทธิ์อย่างชัดเจนยังดำเนินชีวิตติดสนิทผูกพันกับเนื้อหนังอยู่เสมอ 
ท่านก็ยังไม่เติบโตเป็นคริสเตียนทารกที่ไม่มีคุณสมบัติพร้อมที่จะเป็นทั้งศิลาทั้งเป็นปุโรหิตหลวงอย่างแท้จริงของพระเจ้าได้
ด้วยความรักในพระคริสต์วันนี้พี่น้องที่รักท่านต้องหันกลับมาเป็นศิลาของพระเจ้า มาเป็นปุโรหิตหลวงของพระเจ้า เป็นวัสดุที่ล้ำค่าของพระเจ้าพร้อมในการก่อสร้างได้แล้ว
ท่านต้องเปลี่ยนแปลงยอมนอบน้อมถ่อมใจต้อพระเจ้ายำเกรงพระเจ้า รักพระเจ้าอย่างแท้จริง 
อ่านพระคัมภีร์อย่างใจแสวงหา อธิษฐานด้วยความร้อนรนอย่างสม่ำเสมอ
ขอพระเจ้าเปลี่ยนแปลงฟื้นฟูพี่น้องที่รักในพระคริสต์ทุกท่าน เอเมน

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

1เปโตร บทที่2





1ปต. 2:1 ​ดังนั้น ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ละทิ้ง​ความ​ชั่ว​ทั้งมวล คือ การ​หลอก​ลวง ​ความ​เจ้าเล่ห์ การ​อิจฉา การ​นินทา​และ​การ​ใส่​ความ​

1ปต. 2:2 ​เช่น​เดียว​กับ​ทารก​แรกเกิด ท่าน​ปรารถนา​น้ำนม​บริสุทธิ์​ฝ่าย​จิตใจ เพื่อ​น้ำนม​จะ​ช่วย​ให้​ท่าน​เจริญ​เติบ​โต​ขึ้น​ไป​รับ​ความ​รอด​พ้น

1ปต. 2:3 ​ถ้า​ท่าน​ลิ้ม​รส​แล้ว​ว่า “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” ทรง​ความ​ดี​เพียงใด​

1ปต. 2:4 ​จง​เข้า​ไป​เฝ้า​พระ​องค์​ผู้​ทรง​เป็น​ศิลา​ทรง​ชีวิตซึ่ง​มนุษย์​ละทิ้ง​ไป แต่​พระ​เจ้า​ทรง​เลือกสรร​ไว้​และ​มี​ค่า​ประเสริฐ

1ปต. 2:5 ​ท่าน​เป็น​เหมือน​ศิลา​ที่​มี​ชีวิต​กำลัง​ก่อสร้าง​ขึ้น​เป็น​วิหาร​ของ​พระ​จิต​เจ้า เป็น​สม​ณ​ตระกูล​ศักดิ์​สิทธิ์ เพื่อ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ฝ่าย​จิต​ซึ่ง​เป็น​ที่​สบ​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า​เดชะ​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า

1ปต. 2:6 ​ดังที่​มี​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​ว่า “เรา​เลือก​ศิลา​ประเสริฐ​และ​วาง​ไว้​ใน​นคร​ศิ​โยน​เป็น​ศิลา​หัวมุม ทุก​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ศิลา​นี้​จะ​ไม่​ต้อง​อับอาย​เลย”

1ปต. 2:7 ​สำหรับ​ท่าน​ผู้​มี​ความ​เชื่อ ศิลา​นี้​จึง​มี​ค่า​ประเสริฐ แต่​สำหรับ​ผู้​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ ศิลา​ที่​ช่างก่อสร้าง​ละทิ้ง​ก็​กลาย​เป็น​ศิลา​หัวมุม

1ปต. 2:8 ​เป็น​ศิลา​ที่​ทำ​ให้​สะดุด​และ​เป็น​ศิลา​ที่​ทำ​ให้​ล้ม​ลง เขา​เหล่า​นั้น​สะดุด​เพราะ​ไม่​ยอม​เชื่อฟัง​พระ​วาจา นี่​เป็น​ชะตา​กรรม​ของ​พวกเขา

1ปต. 2:9 ​ท่าน​ทั้ง​หลายเป็น​ชาติ​ที่​ทรง​เลือกสรร​ไว้ เป็น​สม​ณ​ราช​ตระกูล เป็น​ชน​ชาติ​ศักดิ์​สิทธิ์ เป็น​ประชากร​ที่​เป็น​กรรม​สิทธิ์​พิ​เศษ​ของ​พระ​เจ้า เพื่อ​จะ​ประกาศ​พระ​ฤทธา นุภาพ​ของ​พระ​องค์​ผู้​ทรง​เรียก​ท่าน​จาก​ความ​มืด​สู่​ความ​สว่าง​ที่​น่า​พิศวง​ของ​พระ​องค์​

1ปต. 2:10 ​ใน​อดีต​ท่าน​มิได้​เป็น​ประชากร แต่​บัดนี้​ท่าน​เป็น​ประชากร​ของ​พระ​เจ้า​แล้ว ใน​อดีต​ท่าน​มิได้​รับ​พระ​เมตตา แต่​บัดนี้​ท่าน​ได้​รับ​พระ​เมตตา​แล้ว​

1ปต. 2:11 ​ท่าน​ที่รัก​ยิ่ง​ทั้ง​หลาย ข้าพ​เจ้า​วอน​ขอ​ท่าน​ผู้​เป็น​เสมือน​คน​ต่าง​ด้าว​และ​คน​พลัด​ถิ่นให้​ละเว้น​จาก​กิเลส​ตัณหา​ของ​เนื้อหนัง​ซึ่ง​ทำ​สงคราม​สู้รบ​กับ​วิญญาณ

1ปต. 2:12 ​จง​มี​ความ​ประพฤติ​ดีงาม​ใน​หมู่​คน​ต่าง​ศาสนาแม้​เขา​จะ​ใส่ร้าย​ท่าน​ว่า​ประพฤติ​ชั่วร้าย เขา​จะ​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​กิจการ​ที่​ท่าน​ทำ​นั้น​เป็น​กิจการ​ดี และ​จะ​สรร​เสริญ​พระ​เจ้า​ใน​วันที่​พระ​องค์​เสด็จ​มา

1ปต. 2:13 ​เพราะ​ความ​รัก​ต่อ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า จง​อ่อนน้อม​เชื่อฟัง​มนุษย์​ทุก​คน​ที่​มี​อำนาจ​ปกครองทั้ง​พระ​จักรพรรดิ​ซึ่ง​มี​อำนาจ​สูงสุด

1ปต. 2:14 ​และ​ผู้ว่าราชการ​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​แต่งตั้ง​ให้​ลงโทษ​ผู้​กระทำ​ความ​ชั่ว​และ​ยกย่อง​ผู้​กระทำ​ความ​ดี

1ปต. 2:15 ​​พระ​เจ้า​มี​พระ​ประสงค์​ให้​ท่าน​ทำ​ความ​ดี ปิดปาก​คน​โง่เขลา​มิ​ให้​พูด​ไร้​สาระ

1ปต. 2:16 ​จง​ประพฤติ​ตน​ดุจ​คน​อิสระ อย่า​ใช้​อิสรภาพ​เป็น​ข้ออ้าง​เพื่อ​ปิดบัง​ความ​ชั่ว แต่​จง​ประพฤติ​ดุจ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​เจ้า

1ปต. 2:17 ​จง​ให้​เกียรติ​ทุก​คน จงรัก​พี่​น้อง​ผู้​มี​ความ​เชื่อ จง​เคารพ​ยำเกรง​พระ​เจ้า จง​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระ​จักรพรรดิ​

1ปต. 2:18 ​ผู้​รับใช้ จง​อยู่​ใต้​อำนาจ​ผู้​เป็น​นาย​ด้วย​ความ​เคารพ​ยำเกรง ไม่​เพียง​แต่​นาย​ที่​ใจดี​และ​อ่อนโยน​เท่านั้น แต่​รวม​ถึง​นาย​ที่​ใจร้าย​ด้วย

1ปต. 2:19 ​การ​ที่​ใคร​คน​หนึ่ง​ยอม​ทนทุกข์​ทรมาน​อย่าง​อยุติธรรม​เพราะ​คำนึง​ถึง​พระ​เจ้า ก็​เป็น​พระ​หรรษ​ทาน

1ปต. 2:20 ​จะ​เป็น​เกียรติ​ได้​อย่างไร​ถ้า​ท่าน​ทำ​ผิด​แล้ว​ต้อง​ทนทุกข์​เพราะ​ถูก​ลงโทษ แต่​ถ้า​ท่าน​ทำ​ความ​ดี แล้ว​ยอม​ทนทุกข์ จึง​จะ​เป็น​พระ​หรรษ​ทาน​ของ​พระ​เจ้า

1ปต. 2:21 ​​พระ​เจ้า​ทรง​เรียก​ท่าน​ให้​ปฏิบัติ​ดังนี้ ​พระ​คริสต​เจ้า​ทรง​รับ​ทรมานเพื่อ​ท่าน และ​ประ​ทาน​แบบฉบับ​ไว้​ให้​ท่าน​ดำเนิน​ตาม​รอย​พระ​บาท

1ปต. 2:22 ​​พระ​องค์​มิได้​ทรง​กระทำ​บาป มิได้​ตรัส​หลอก​ลวง​ผู้ใด

1ปต. 2:23 ​เมื่อ​เขา​ดูหมิ่น​พระ​องค์ ​พระ​องค์​ก็​มิได้​ทรง​โต้ตอบ เมื่อ​ทรง​รับ​ทรมาน ​พระ​องค์​มิได้​ทรง​ข่มขู่​จะ​แก้แค้น แต่​ทรง​มอบ​พระ​องค์​ไว้​แด่​พระ​ผู้​ทรง​พิพากษา​ด้วย​ความ​เที่ยงธรรม

1ปต. 2:24 ​​พระ​องค์​ทรง​แบก​บาป​ของ​เรา​ไว้​ใน​พระ​วรกาย​บน​ไม้กาง​เขน เพื่อ​เรา​จะ​ได้​ตาย​จาก​บาป​และ​มี​ชีวิต​อยู่​เพื่อ​ความ​ชอบ​ธรรม รอย​แผล​ของ​พระ​องค์​รักษา​ท่าน​ให้​หาย

1ปต. 2:25 ​ท่าน​เคย​เป็น​เหมือน​แกะที่​พลัด​หลง​จาก​ฝูง แต่​บัดนี้​กลับ​มา​หา​ผู้​เลี้ยง​และ​ผู้ดู​แล​วิญญาณ​ของ​ท่าน​แล้ว​


วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ยากอบบทที่1 พระคริสตธรรมคัมภีร์ใหม่





ยก. 1:1 ​ยาก​อบ ผู้​รับใช้​ของ​พระ​เจ้า​และ​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา ขอ​ส่ง​ความ​คิด​ถึงตระกูล​ทั้ง​สิบ​สอง​ตระกูล​ที่​กระจาย​อยู่​ทั่วโลก

ยก. 1:2 ​พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย จง​คิด​ว่า​เป็น​ที่​น่า​ยินดี​เมื่อ​ประสบ​ความ​ยาก​ลำบาก​ต่างๆ

ยก. 1:3 ​เพราะ​ท่าน​รู้อยู่​แล้ว​ว่า​การ​ที่​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​ถูก​ทดสอบ​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​พากเพียร

ยก. 1:4 ​จง​พากเพียร​ให้​ถึง​ที่สุดเพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​เป็น​คน​ดี​อย่าง​สมบูรณ์ ไม่​มี​ที่​ตำหนิ และ​ไม่​มี​สิ่งใด​บกพร่อง​

ยก. 1:5 ​ท่าน​ใด​ขาด​ปรีชา​ญาณ จง​ขอ​ปรีชา​ญาณ​นั้น​จาก​พระ​เจ้า​เถิด ​พระ​องค์​ประ​ทาน​ให้​ทุก​คน​ด้วย​พระ​ทัย​กว้างโดย​ไม่​ทรง​ตำหนิ​เลย แล้ว​เขา​จะ​ได้​รับ​ปรีชา​ญาณ​ตาม​ที่​ขอ

ยก. 1:6 ​แต่​เขา​ต้อง​ขอ​ด้วย​ความ​เชื่อ โดย​ไม่​สงสัย เพราะ​ผู้​ที่​สงสัย​นั้น​เปรียบ​เสมือน​คลื่น​ใน​ทะเล​ที่​ถูก​ลม​พัด​ซัด​ไป​มา

ยก. 1:7 ​คน​เช่นนี้​จะ​ไม่​ได้​รับ​อะไร​จาก​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า

ยก. 1:8 ​เขา​เป็น​คน​จิตใจ​โลเล​ไม่​มั่นคง​ใน​กิจการ​ทั้ง​หลาย​ของ​เขา

ยก. 1:9 ​พี่​น้อง​ผู้​ต่ำต้อย​จง​ภูมิใจ​ใน​ตำแหน่ง​สูง​ของ​ตน

ยก. 1:10 ​ส่วน​คน​มั่งมี​ก็​จง​ภูมิใจ​ใน​สภาพ​ต่ำต้อย​ของ​ตน เพราะ​เขา​จะ​ต้อง​ล่วง​พ้น​ไป​ดุจ​ดอก​หญ้า

ยก. 1:11 ​เมื่อ​ดวงอาทิตย์​ขึ้น​แดด​ร้อน​ระอุ​แล้วหญ้า​ก็​เหี่ยวแห้ง​ไป ดอก​หญ้า​จะ​ร่วงโรย​และ​ความ​งดงาม​จะ​สูญ​ไป คน​มั่งมี​จะ​ร่วงโรย​ไป​ขณะที่​กำลัง​ทำ​ธุรกิจ​ของ​ตน​เช่นเดียวกัน​

ยก. 1:12 ​ผู้​ที่​มี​มานะ​อดทน​ต่อ​การ​ถูก​ทดลอง​ย่อม​เป็นสุข เพราะ​เมื่อ​เขา​ผ่าน​การ​ทดลอง​นั้น เขา​จะ​ได้​รับ​มงกุฎ​แห่ง​ชีวิต​ซึ่ง​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าทรง​สัญญา​จะ​ประ​ทาน​ให้​ผู้​ที่รัก​พระ​องค์

ยก. 1:13 ​อย่า​ให้​ผู้ใด​ที่​ถูก​ทดลองพูด​ว่า “ข้าพ​เจ้า​ถูก​พระ​เจ้า​ทดลอง” เพราะ​ความ​ชั่ว​ไม่​อาจ​ทดลอง​พระ​เจ้า​ได้ และ​พระ​องค์​ไม่​ทรง​ทดลอง​ผู้ใด

ยก. 1:14 ​แต่​เรา​ทุก​คน​ถูก​กิเลส​ตัณหา​ทดลอง ดึงดูด และ​หลอก​ลวง

ยก. 1:15 ​กิเลส​ตัณหา​ทำ​ให้​เกิด​บาป​และ​เมื่อ​มี​บาป​มาก บาป​ก็​จะ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ตาย​

ยก. 1:16 ​พี่​น้อง​ที่รัก อย่า​หลงผิด

ยก. 1:17 ​ของ​ประ​ทาน​ทุกอย่าง​ที่​ดี​และ​บริบูรณ์​ย่อม​มา​จาก​เบื้องบนลง​มา​จาก​พระ​บิดา​ผู้​ทรง​สร้าง​ความ​สว่าง​พระ​องค์​ไม่​ทรง​เปลี่ยนแปลง ไม่​ทรง​มี​แม้แต่​เงา​แห่ง​ความ​แปรปรวน​ใดๆ

ยก. 1:18 ​​พระ​องค์​พอ​พระ​ทัย​ให้​เรา​บังเกิด​โดย​พระ​วาจา​แห่ง​ความ​จริงเพื่อให้​เรา​เป็น​ดุจ​ผล​แรก​ใน​สรรพ​สิ่ง​ที่​ทรง​สร้าง

ยก. 1:19 ​พี่​น้อง​ที่รัก พึง​ตระหนัก​ว่า ทุก​คน​จง​ฉับไว​ที่​จะ​ฟัง แต่​ช้า​ที่​จะ​พูด และ​ช้า​ที่​จะ​โกรธ

ยก. 1:20 ​คน​ที่​โกรธ​ย่อม​ไม่​ปฏิบัติ​ตน​ชอบ​ธรรม​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้า

ยก. 1:21 ​ดังนั้น จง​ละทิ้ง​ความ​โสมม​ทั้ง​หลาย และ​ความ​ชั่วร้าย​ที่​ยัง​ตกค้าง​อยู่ จง​น้อม​รับ​พระ​วาจา​ที่​ทรง​ปลูกฝัง​ไว้​ใน​ท่าน ​พระ​วาจา​นั้น​ช่วย​วิญญาณ​ท่าน​ให้​รอด​พ้น​ได้

ยก. 1:22 ​จง​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​วาจา มิใช่​เพียง​แต่​ฟัง ซึ่ง​เท่า​กับ​หลอก​ตนเอง

ยก. 1:23 ​เพราะ​ถ้า​ผู้ใด​ฟัง​พระ​วาจา​แล้ว​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม ก็​เหมือน​คน​ที่​มอง​ใบหน้า​ของ​ตน​ใน​กระจกเงา

ยก. 1:24 ​เมื่อ​มอง​ตนเอง และ​จาก​ไป​แล้ว ก็​ลืม​ทันที​ว่า​ตน​เป็น​อย่างไร

ยก. 1:25 ​ส่วน​ผู้​ที่​พิจารณา​บัญญัติ​แห่ง​อิสรภาพและ​ยึดมั่น​ใน​บัญญัติ​นั้น มิใช่​ฟัง​แล้ว​ลืม แต่​ฟัง​แล้ว​นำ​ไป​ปฏิบัติ​ตาม ผู้​นั้น​ย่อม​ประสบ​ความ​สุข​ใน​การ​ปฏิบัติ​นั้น

ยก. 1:26 ​ผู้ใด​คิด​ว่า​ตน​เป็น​คน​เลื่อมใส​ศรัทธา​แต่​ไม่​ควบคุม​ลิ้น​ของ​ตน ผู้​นั้น​ย่อม หลอก​ลวง​ตนเอง ​ความ​เลื่อมใส​ศรัทธา​ของ​เขา​ย่อม​ไร้​ค่า

ยก. 1:27 ​​ความ​เลื่อมใส​ศรัทธา​บริสุทธิ์​และ​ไร้​มลทิน​เฉพาะ​พระ​พักตร์​ของ​พระ​เจ้า​พระ​บิดาคือ​การ​เยี่ยม​เด็ก​กำพร้า​และ​หญิง​ม่าย​ที่​มี​ความ​ทุกข์ร้อน และ​การ​รักษา​ตน​ให้​พ้น​จาก​มลทิน​ของ​โลก​


ยูดา พระคริสตธรรมคัมภีร์ใหม่









ยด. 1:1 ​จาก​ยูดา ผู้​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า น้อง​ของ​ยาก​อบ ถึง​ผู้​ที่​​ได้​รับ​เรียก ซึ่ง​เป็น​ที่รักของ​พระ​เจ้า​พระ​บิดา และ​เป็น​ผู้​ที่​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า​ทรง​คุ้มครอง​รักษา
ยด. 1:2 ​ขอ​พระ​เมตตา สันติ​และ​ความ​รัก จง​มี​แด่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​อย่าง​บริบูรณ์​
ยด. 1:3 ​ท่าน​ที่รัก​ทั้ง​หลาย ข้าพ​เจ้า​ปรารถนา​อย่าง​แรงกล้า​ที่​จะ​เขียน​ถึง​ท่าน​เรื่อง​ความ​รอด​พ้น​ซึ่ง​เรา​ได้​รับ​ร่วม​กัน ข้าพ​เจ้า​จึง​เห็น​ว่า จำเป็น​ต้อง​เขียน​เตือน​ท่าน​ให้​ต่อสู้​เพื่อ​ป้องกัน​ความ​เชื่อ​ที่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน​แก่​บรรดา​ผู้​ศักดิ์​สิทธิ์​ครั้ง​เดียว​ตลอดไป
ยด. 1:4 ​บาง​คน​แอบแฝง​เข้า​มา​ใน​กลุ่ม​ท่าน​ทั้ง​หลาย ​พระ​คัมภีร์​เขียน​ไว้​นาน​แล้ว​ว่า​คน​เหล่า​นี้​จะ​ถูก​ตัดสิน​ลงโทษเขา​เป็น​คน​อธรรม บิดเบือน​พระ​หรรษ​ทาน​ของ​พระ​เจ้า​ของ​เรา เป็น​ข้อแก้ตัว​ใน​ความ​ประพฤติ​ผิดศีลธรรม​และ​ปฏิเสธ​พระ​เยซู​คริสต์ ผู้​ทรง​เป็น​เจ้านาย​และ​ทรง​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เพียง​พระ​องค์​เดียวของ​เรา​
ยด. 1:5 ​ท่าน​รู้เรื่อง​ทั้งหมด​นี้​อยู่​แล้วแต่​ข้าพ​เจ้า​ปรารถนา​จะ​เตือน​ท่าน​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ให้​ระลึก​ว่า​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าทรง​ช่วย​ให้​ชน​ชาติ​หนึ่ง​รอด​พ้น​จาก​แผ่น​ดิน​อียิปต์ หลัง​จาก​นั้น​พระ​องค์​ยัง​ทรง​ทำลาย​ผู้​ไม่​เชื่อ​พระ​องค์
ยด. 1:6 ​และ​ทรง​ทำลาย​ทูต​สวรรค์​ที่​ไม่​พอใจ​ใน​อำนาจ​ที่​ตน​ได้​รับ​จาก​พระ​เจ้า ละทิ้ง​ที่​อาศัย​ของ​ตน​พระ​องค์​จึง​ทรง​จองจำ​ไว้​ด้วย​พันธนาการ​นิรันดร ทรง​คุมขัง​คน​เหล่า​นั้น​ไว้​ใน​ที่​มืด​จนถึง​การ​พิพากษา​ใน​วัน​ยิ่งใหญ่​นั้น
ยด. 1:7 ​ชาวเมือง​โสด​ม ชาวเมือง​โก​โม​ราห์ และ​ชาวเมือง​ที่อยู่​รอบๆ ประพฤติ​ผิดศีลธรรม​เช่น​เดียว​กับ​ทูต​สวรรค์​เหล่า​นั้น ปล่อยตัว​ตาม​กิเลส​ตัณหา​ผิด​ธรรม​ชาติ​จึง​ได้​รับโทษ​ใน​ไฟ​นิรันดร เรื่อง​ดังกล่าว​เป็น​ตัวอย่าง​สำหรับ​เรา​
ยด. 1:8 ​คน​เพ้อฝัน​เหล่า​นี้​ก็​เช่นเดียวกันเขา​ทำ​ให้​ร่างกาย​ของ​ตน​เป็น​มลทิน ดูหมิ่น​อำนาจ​ของ​พระ​เจ้า กล่าว​คำ​หยาบคาย​ต่อ​บรรดา​ทูต​สวรรค์
ยด. 1:9 ​อัคร​ทูต​สวรรค์​มี​คา​เอล เมื่อ​โต้เถียง​กับ​ปีศาจ​เรื่อง​ศพ​ของ​โมเสสยัง​ไม่​กล้า​พูด​ดูหมิ่น​ปีศาจ ท่าน​เพียง​แต่​พูด​ว่า “ขอ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​กล่าว​โทษ​เจ้า​เถิด”​
ยด. 1:10 ​แต่​คน​เหล่า​นี้​กลับ​พูด​คำ​หยาบคาย​ต่อ​ทุกสิ่ง​ที่​เขา​ไม่​รู้ และ​ต่อ​สิ่ง​ที่​เรา​รู้​โดย​สัญชาตญาณเหมือน​สัตว์​เดียรัจฉาน จึง​ทำ​ให้​เขา​พินาศ​
ยด. 1:11 ​​ความ​วิบัติ​จง​เกิด​แก่​เขา เขา​ดำเนิน​ตาม​ทาง​ของ​คา​อิน ปล่อยตัว​ไป​ตาม​ความ​หลงผิด​ของ​บา​ลา​อัม​เพราะ​เห็นแก่​สินจ้าง และ​พินาศ​ไป​เหมือน​กับ​โค​ราห์​ที่​เป็น​กบ​ฎ
ยด. 1:12 ​เขา​เป็น​อุปสรรค​เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ชุมนุม​กัน​ใน​งานเลี้ยง​ฉัน​พี่​น้องเขา​ร่วม​โต๊ะ​อย่าง​ไม่​อาย​เพียง​เพื่อ​จะ​กิน เขา​เป็น​เมฆ​ไร้​ฝน​ที่​ลอย​ไป​ตาม​ลม เป็นต้น​ไม้​ใน​ฤดู​ออก​ผล​ที่​ไม่​มี​ผล​และ​ถูก​ถอน​ราก จึง​ตาย​สอง​ครั้ง
ยด. 1:13 ​เป็น​คลื่น​ทะเลบ้า​คลั่ง​ที่​พ่น​กิจการ​น่า​อาย​ของ​ตน​ออก​มา​ราวกับ​ฟอง เป็น​ดาว​ที่​พลัด​ออก​ไป​จาก​วง​โคจรที่​พระ​เจ้า​ทรง​จัด​ความ​มืด​ทึบ​ตลอด​นิรันดร​ไว้
ยด. 1:14 ​เอ​โน​ค​ผู้​เป็น​อัยกา​คน​ที่​เจ็ด​นับ​ตั้งแต่​อา​ดัม​พยากรณ์​ถึง​คน​เหล่า​นี้​ไว้​ว่า “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เสด็จ​มา​พร้อมกับ​บรรดา​ผู้​ศักดิ์​สิทธิ์​ของ​พระ​องค์ จำนวนนับ​หมื่น
ยด. 1:15 ​เพื่อ​พิพากษา​มนุษย์​ทุก​คน และ​กล่าว​โทษ​คน​อธรรม​เพราะ​กิจการ​อธรรม​ทั้ง​หลาย​ที่​เขา​กระทำ​และ​เพราะ​ถ้อยคำ​หยาบคาย​ที่​คน​บาป​ไม่​นับถือ​พระ​เจ้า​กล่าวร้าย​ต่อ​พระ​องค์”
ยด. 1:16 ​คน​เหล่า​นี้​เป็น​คน​ชอบ​บ่น ไม่​พอใจ​สภาพ​ของ​ตน ประพฤติ​ตาม​ราคะ​ตัณหาพูดจา​โอหัง​อวดดี ประจบ​สอ​พล​อ​โดย​หวัง​ประโยชน์​เพื่อ​ตนเอง​
ยด. 1:17 ​ท่าน​ที่รัก​ทั้ง​หลาย จง​ระลึก​ถึง​ถ้อยคำ​ที่​บรรดา​อัคร​สาวก​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา​กล่าว​ไว้
ยด. 1:18 ​เขา​บอก​ท่าน​ว่า “ใน​วาระ​สุดท้าย จะ​มี​ผู้​เยาะเย้ย​เกิด​ขึ้น เขา​เหล่า​นี้​จะ​ประพฤติ​ตาม​ราคะ​ตัณหา​อัน​เลวร้าย​ของ​ตน”
ยด. 1:19 ​คน​เหล่า​นี้​เป็น​ผู้ทำ​ให้​เกิด​ความ​แตก​แยก ดำเนิน​ชีวิต​ใฝ่ต่ำ​ตาม​ธรรม​ชาติ​ ไม่​มี​พระ​จิต​เจ้า​เป็น​ผู้นำ​
ยด. 1:20 ​ท่าน​ที่รัก​ทั้ง​หลาย จง​เสริมสร้าง​ตนเอง​จาก​พื้นฐาน​ความ​เชื่อ​ศักดิ์​สิทธิ์​ยิ่ง​ของ​ท่าน จง​อธิษ​ฐาน​ภาวนา​ใน​พระ​จิต​เจ้า
ยด. 1:21 ​จง​มี​ความ​รัก​อย่าง​มั่นคง​ใน​พระ​เจ้า ขณะที่​รอคอย​พระ​กรุณา​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร
ยด. 1:22 ​จง​สงสาร​คน​ที่​อ่อน​แอ
ยด. 1:23 ​จง​ช่วย​เขา​ให้​รอด​พ้น​โดย​ดึง​เขา​ออก​มา​จาก​ไฟจง​สงสาร​คน​อื่น​ด้วย แต่​ต้อง​มี​ความ​ระมัดระวัง จง​อยู่​ห่าง​แม้กระทั่ง​เสื้อ​ที่​เปื้อน​มลทิน​ของ​เขา
ยด. 1:24 ​แด่​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ปกป้อง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไว้​มิ​ให้​พลาดพลั้ง และ​ทรง​ประคอง​ให้​ยืน​ด้วย​ความ​ยินดี​ปราศจาก​ตำหนิ​เฉพาะ​พระ​สิริ​รุ่งโรจน์
ยด. 1:25 ​แด่​พระ​องค์​แต่​เพียง​พระ​องค์​เดียว​ผู้​ทรง​เป็น​พระ​เจ้า ผู้​ทรง​ช่วย​เรา​ให้​รอด​พ้น อาศัย​พระ​บารมี​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา ขอ​พระ​สิริ​รุ่งโรจน์ ​พระ​บารมี​ยิ่งใหญ่ ​พระ​เดชานุภาพ​และ​พระ​ฤทธานุ​ภาพ จง​มี​แด่​พระ​องค์ ทั้ง​อดีต ปัจจุบัน และ​อนาคต​ตลอด​นิรันดร อา​แมน

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เราเป็นเผ่าพันธ์มนุษย์อาดัมคนใหม่ของพระเจ้า เอเมน

ขณะที่พระเยซูถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขน พระเยซูถูกตรึงในฐานะอาดัมผู้ซึ่งจะมาภายหลัง สิ่งสารพัดที่เป็นของอาดัมคนแรกจะรวมเข้าไว้ในตัวของพระเยซูคริต์จะถูกขจัดทิ้งไป รวมถึงเราทั้งหลายที่เชื่อพระเยซูคริสต์ก็ได้รวมอยู่ในนั้นด้วย พระเยซูทรงเป็นอาดัมผู้ซึ่งมาภายหลังนั้นได้ขจัดมนุษย์เผ่าพันธ์เดิมให้สูญสิ้นไปแล้ว.การที่พระองค์เป็นมนุษย์คนที่สองเพื่อจะได้นำมาซึ่งเผ่าพันใหม่ พระองค์ทรงเป็นมนุษย์คนที่สองด้วยการเป็นขึ้นมาใหม่ ในที่นี้รวมถึงเราทั้งหลายที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ไว้แล้วด้วย.
รม. 6:5 เพราะว่าถ้าเราเข้าสนิทกับพระองค์แล้วในการตายอย่างพระองค์ เราก็จะเข้าสนิทกับพระองค์ในการเป็นขึ้นจากตายอย่างพระองค์
วันนี้เราทั้งหลายที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ได้ตายอยู่ในอาดัมผู้ซึ่งมาภายหลังแล้ว เราทั้งหลายจึงมีชีวิตเป็นอยู่ในมนุษย์คนที่สอง 
ไม้กางเขนจึงเป็นฤทธานุภาพอันเกรียงไกรที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ซึ่งย้ายเราทั้งหลายที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ออกจากอาดัมคนแรกเข้ามาสู่อาดัมคนใหม่คือพระเยซูคริสต์ เอมน
วอท์ชแมน นี
หนังสือชีวิตคริสเตียนที่ปกติ
เมื่ออ่านตรงนี้เราจะเห็นได้ว่าการทำงานของไม้กางเขนนั้นยิ่งใหญ่จริงๆๆเป็นการเคลื่อย้ายโยกย้ายชีวิตเก่าที่เต็มไปด้วยบาปจากอาดัมคนก่อนที่สืบเนื่องต่อมาตกมาถึงเรา นับเป็นพระคุณความรอดที่ยิ่งใหญ่ของพระเยซูคริสต์ที่ทรงนำความบาปของเราสารพัดและสภาพชีวิตมนุษย์อาดัมคนเก่าของเราตรึงไว้บนไม้กางเขนวันนี้เราทั้งหลายที่เชื่อในพระเยซูคริสต์จึงเป็นเผ่าพันธ์อาดัมคนใหม่ของพระคริสต์ สรรเสริญขอบคุณพระเจ้าเอเมน.

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ขอบพระคุณพระเจ้าที่มือและตาของข้าพระองค์ถวายแด่พระคำของพระเจ้าเอเมน

«ต่อไปนี้เป็นพระบัญญัติ กฎเกณฑ์และคำตัดสินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงบัญชาให้สอนท่าน เพื่อท่านทั้งหลายจะได้กระทำตาม (...) จงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้ที่มือของท่านเป็นหมายสำคัญ และจงเป็นดังเครื่องหมายระหว่างนัยน์ตาของท่าน»
พระราชบัญญัติ 6:1,8
[พระคัมภีร์ TBS 1998]
วันนี้พี่น้องที่รักในพระคริสต์ท่านอ่านพระคัมภีร์หรือยัง การยำ้เตือนในพระพราชบัญญัติบทที่หกข้อที่แปดเตือนเราให้แสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าจากการอ่านพระคัมภีร์นี่เอง เราต้องพันมือของเราด้วยพระคัมภีร์ไม่ใช่พันด้วยหนังสือไร้สาระที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความตาย การอ่านพระคัมภีร์ช่วยให้เราได้ชีวิตนิรันดร์เป็นอาหารแห่งชีวิตที่ไม่มีวันหมดสิ้น ตาของเราต้องอ่านต้องดูแต่พระคำแห่งชีวิตนี้ ขอบพระคุณพระเจ้าที่ข้าเจ้ามีตาเพื่ออ่านพระคัมภีร์ได้ทุกวันขอบคุณพระเจ้าที่มือของข้าพเจ้าถือเปิดอ่านพระคำของพระเจ้าทุกวัน อาเลลูยา เอเมน.

ทำไมต้องมีคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ และทำไมคนกลางผู้นั้นต้องเป็นพระเ...

วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เสาหลักในคริสตจักร

ยากอบ เปโตร ยอห์น ได้รับการขนานนามว่าเป็นเสาหลักในคริสตจักร และเปาโลได้กล่าวว่ายากอบเป็นเสาแรกในท่ามกลางเสาทั้งสามนั้น

กท. 2:9 เมื่อยากอบกับเคฟาสและยอห์น ผู้ที่เขานับถือว่าเป็นเสาหลัก เห็นพระคุณซึ่งประทานแก่ข้าพเจ้าแล้วก็ได้จับมือขวาของข้าพเจ้ากับบารนาบัส แสดงว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เพื่อให้เราไปหาคนต่างชาติ และท่านเหล่านั้นจะไปหาพวกที่เข้าสุหนัต

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

คุณธรรมภาคปฎิบัติที่ครบถ้วนสมบูรณ์ของคริสเตียน

คุณธรรมภาคปฎิบัติที่ครบถ้วนสมบูรณ์ของคริสเตียน

1.ทนรับการทดลองโดยพึ่งในความเชื่อ

ยก. 1:2 ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายประสบความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี
ยก. 1:3 เพราะท่านทั้งหลายรู้ว่า การทดลองความเชื่อของท่านนั้น ทำให้เกิดความหนักแน่นมั่นคง
ยก. 1:4 และจงให้ความมั่นคงนั้นบรรลุผลอันสมบูรณ์ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่ดีพร้อม มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีสิ่งใดบกพร่องเลย
ยก. 1:5 ถ้าผู้ใดในพวกท่านขาดสติปัญญา ก็ให้ผู้นั้นทูลขอจากพระเจ้า ผู้ทรงโปรดประทานให้แก่คนทั้งปวงด้วยพระกรุณาและมิได้ทรงตำหนิ แล้วผู้นั้นก็จะได้รับสิ่งที่ทูลขอ
ยก. 1:6 แต่จงให้ผู้นั้นทูลขอด้วยความเชื่อ อย่าสงสัยเลย เพราะว่าผู้ที่สงสัยเป็นเหมือนคลื่นในทะเลซึ่งถูกลมพัดซัดไปมา
ยก. 1:7 ผู้นั้นจงอย่าคิดว่าจะได้รับสิ่งใดจากพระเจ้าเลย
ยก. 1:8 เขาเป็นคนสองใจไม่มั่นคงในบรรดาทางที่ตนประพฤตินั้น
ยก. 1:9 ให้พี่น้องที่ต่ำต้อยโอ้อวดในการที่พระเจ้าทรงเชิดชูเขา
ยก. 1:10 และคนมั่งมีก็จงโอ้อวดเมื่อตกต่ำลง เพราะว่าเขาจะต้องล่วงลับไปดุจดอกหญ้า
ยก. 1:11 เพราะเมื่อตะวันขึ้น ความร้อนอันแรงกล้าก็กระทำให้หญ้าเหี่ยวแห้งไป และดอกหญ้าก็ร่วงหล่น และความงามของมันสูญสิ้นไป คนมั่งมีก็จะเสื่อมสูญไปกลางคันเช่นกัน
ยก. 1:12 คนที่อดทนต่อการทดลองใจก็เป็นสุข เพราะเมื่อปรากฏว่าผู้นั้นทนได้แล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิต ซึ่งพระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้แก่คนทั้งหลายที่รักพระองค์

2.ผู้ที่บังเกิดจากพระเจ้าย่อมต้านทานการล่อลวง

ยก. 1:13 อย่าให้คนที่ถูกล่อลวงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงล่อลวงข้าพเจ้า” เพราะว่าพระเจ้าจะไม่ถูกความชั่วล่อลวง และพระองค์เองก็ไม่ทรงล่อลวงใครเลย
ยก. 1:14 แต่ทุกคนถูกล่อลวงด้วยตัณหาของตัวเอง คือถูกตัณหานั้นล่อลวงและชักนำ
ยก. 1:15 เมื่อตัณหาฟักตัวขึ้นแล้วก็ก่อให้เกิดบาป และเมื่อบาปเจริญเต็มที่แล้วก็ก่อให้เกิดความตาย
ยก. 1:16 พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า อย่าถูกหลอกเลย
ยก. 1:17 ของประทานที่ดีและเลิศทุกอย่างนั้นมาจากเบื้องบน คือมาจากพระผู้สร้างแห่งบรรดาดวงสว่าง ในพระองค์ไม่มีการแปรปรวนหรือเงาของการเปลี่ยนแปลง
ยก. 1:18 เมื่อตั้งพระทัยแล้ว พระองค์ทรงให้เราบังเกิดด้วยพระวจนะแห่งความจริง เพื่อให้เราเป็นผลิตผลแรกของสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงสร้าง

3.ดำเนินชีวิตที่ยำเกรงพระเจ้าโดยพึ่งพระตำที่ปลูกฝังไว้แล้วตามกฎบัญญัติแห่งเสรีภาพที่ครบถ้วน

ยก. 1:19 ดูก่อนพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงทราบข้อนี้ จงให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ
ยก. 1:20 เพราะว่าความโกรธของมนุษย์ไม่ได้กระทำให้เกิดความชอบธรรมแห่งพระเจ้า
ยก. 1:21 เหตุฉะนั้นจงเลิกความโสมมทั้งหลายแหล่ และการชั่วร้ายอันดกดื่น และจงน้อมใจรับพระวจนะที่ทรงปลูกฝังไว้แล้วนั้น ซึ่งสามารถช่วยจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายให้รอดได้
ยก. 1:22 แต่ท่านทั้งหลายจงเป็นคนที่ประพฤติตามพระวจนะนั้น ไม่ใช่เป็นแต่เพียงผู้ฟังเท่านั้น ซึ่งเป็นการลวงตนเอง
ยก. 1:23 เพราะว่าถ้าผู้ใดฟังพระวจนะ และไม่ได้ประพฤติตาม ผู้นั้นก็เป็นเหมือนคนที่ดูหน้าของตัวในกระจกเงา
ยก. 1:24 เพราะว่าเมื่อดูตัวเองแล้วก็ไป และก็ลืมในทันทีนั้นว่าตัวเองเป็นอย่างไร
ยก. 1:25 แต่ผู้ที่พิจารณาดูในวิสุทธิบัญญัติ ซึ่งเป็นพระบัญญัติแห่งเสรีภาพ และตั้งอยู่ในพระบัญญัตินั้น มิได้เป็นผู้ฟังแล้วก็หลงลืม แต่เป็นผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตาม ผู้นั้นก็จะได้รับความสุขเพราะการประพฤติปฏิบัติของตน
ยก. 1:26 ถ้าผู้ใดเข้าใจว่าตัวเป็นคนมีธัมมะและมิได้สงบปากคำ แต่หลอกลวงตัวเอง ธัมมะของผู้นั้นก็ไม่มีประโยชน์
ยก. 1:27 ธัมมะที่บริสุทธิ์ไร้มลทินต่อพระพักตร์พระเจ้าและพระบิดานั้น คือการเยี่ยมเยียนเด็กกำพร้าและหญิงม่ายที่มีความทุกข์ร้อน และการรักษาตัวให้พ้นจากราคีของโลก

4.ไม่ปฎิบัติต่อกันในท่มกลางพี่น้องด้วยการเลือกหน้าคน

ยก. 2:1 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า ด้วยเหตุที่ท่านมีความเชื่อในองค์พระเยซูคริสตเจ้าของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งพระสิรินั้น จงอย่าลำเอียง
ยก. 2:2 เพราะว่าถ้ามีคนหนึ่งสวมแหวนทองคำและแต่งตัวดีเข้ามาในที่ประชุมของท่าน และมีคนจนคนหนึ่งแต่งตัวซอมซ่อเข้ามาด้วย
ยก. 2:3 และท่านสนใจคนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอย่างดี และกล่าวโอภาปราศรัยกับเขาว่า “เชิญท่านนั่งที่นี่เถิด” ในขณะเดียวกันท่านก็พูดกับคนจนนั้นว่า “แกจงยืนอยู่ที่นั่น” หรือ “จงนั่งแทบเท้าของเราเถิด”
ยก. 2:4 ท่านมิแบ่งชั้นวรรณะ และวินิจฉัยด้วยใจชั่วหรือ
ยก. 2:5 พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงฟังเถิด พระเจ้าได้ทรงเลือกคนยากจนในโลกนี้ให้เป็นคนมั่งมีในความเชื่อ และให้เป็นผู้รับมรดกแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงสัญญาไว้ แก่ผู้ที่รักพระองค์มิใช่หรือ
ยก. 2:6 แต่ท่านทั้งหลายได้ดูถูกคนจน ไม่ใช่คนมั่งมีหรือที่กดขี่ข่มเหงท่าน ไม่ใช่เขาเหล่านั้นหรือที่ลากตัวท่านไปขึ้นศาล
ยก. 2:7 ไม่ใช่เขาเหล่านั้นหรือที่สบประมาทพระนามอันประเสริฐซึ่งใช้เรียกท่าน
ยก. 2:8 ถ้าท่านทั้งหลายบำเพ็ญตนตามพระบัญญัติโดยแท้จริง ตามพระคัมภีร์ที่ว่า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง แล้ว ท่านทั้งหลายก็ประพฤติดีอยู่
ยก. 2:9 แต่ถ้าท่านทั้งหลายลำเอียง ท่านก็กระทำบาป และว่าตามธรรมบัญญัติท่านก็กระทำผิด
ยก. 2:10 เพราะว่าผู้ใดรักษาธรรมบัญญัติได้ทั้งหมด แต่ผิดอยู่ข้อเดียว ผู้นั้นก็เป็นผู้ผิดธรรมบัญญัติทั้งหมด
ยก. 2:11 ด้วยว่าพระองค์ผู้ได้ตรัสว่า เจ้าอย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา ก็ได้ตรัสไว้ด้วยว่า เจ้าอย่าฆ่าคน แม้ท่านไม่ได้ล่วงประเวณีแต่ได้ฆ่าคน ท่านก็เป็นผู้ละเมิดธรรมบัญญัติ
ยก. 2:12 ท่านทั้งหลายจงพูดและจงกระทำ เช่นผู้ที่จะได้รับการพิพากษาด้วยกฎแห่งเสรีภาพ
ยก. 2:13 เพราะว่าการพิพากษาย่อมไม่กรุณาต่อผู้ที่ไม่แสดงความกรุณา แต่ความกรุณาย่อมมีชัยเหนือการพิพากษา

5.เป็นผู้ชอบธรรมเพราะการประพฤติในความสัมพันทามกลางพี่น้อง

ยก. 2:14 ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า แม้ผู้ใดจะว่าตนมีความเชื่อ แต่ไม่ประพฤติตามจะได้ประโยชน์อะไร ความเชื่อของเขาจะช่วยเขาให้รอดได้หรือ
ยก. 2:15 ถ้าพี่น้องชายหญิงคนใดขัดสนเครื่องนุ่งห่มและอาหารประจำวัน
ยก. 2:16 และมีคนใดในพวกท่านกล่าวแก่เขาว่า “เชิญไปเป็นสุขเถิด ขอให้อบอุ่นและอิ่มเถิด” และไม่ได้ให้สิ่งที่เขาขัดสนนั้น จะเป็นประโยชน์อะไร
ยก. 2:17 ความเชื่อก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ประพฤติตามก็ไร้ผล
ยก. 2:18 แต่บางคนจะกล่าวว่า “คนหนึ่งมีความเชื่อแต่อีกคนหนึ่งมีการประพฤติ” จงแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นความเชื่อของท่าน ที่ไม่มีการประพฤติตาม และด้วยการประพฤติตาม ข้าพเจ้าจะแสดงให้ท่านเห็นความเชื่อของข้าพเจ้า
ยก. 2:19 ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นหนึ่ง นั่นก็ดีอยู่แล้ว แม้พวกปีศาจก็เชื่อ และกลัวจนตัวสั่น
ยก. 2:20 แน่ะคนโฉดเขลา ท่านต้องการให้พิสูจน์หรือว่า ความเชื่อที่ไม่ประพฤติตามนั้นไร้ผล
ยก. 2:21 เมื่ออับราฮัมบิดาของเรา ได้พาอิศอัคบุตรของท่านมาถวายบนแท่นบูชา จึงได้ความชอบธรรมเพราะการประพฤติไม่ใช่หรือ
ยก. 2:22 ท่านทั้งหลายก็เห็นแล้วว่า ความเชื่อมีกำลังร่วมกับการประพฤติตามของท่าน และความเชื่อนั้นจะบริบูรณ์ด้วยการประพฤติ
ยก. 2:23 และพระคัมภีร์ก็สำเร็จที่ว่า อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และพระองค์ทรงถือว่า ความเชื่อนั้นเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน และท่านได้ชื่อว่า เป็นสหายของพระเจ้า 
ยก. 2:24 ท่านทั้งหลายก็เห็นแล้วว่า ผู้ใดจะเป็นคนชอบธรรมได้ ก็เนื่องด้วยการประพฤติ และมิใช่ด้วยความเชื่อเพียงอย่างเดียว
ยก. 2:25 เช่นเดียวกัน ราหับหญิงแพศยาก็ได้ความชอบธรรมเนื่องด้วยความประพฤติมิใช่หรือ เมื่อนางได้รับรองผู้ส่งข่าวเหล่านั้น และส่งเขาไปเสียทางอื่น
ยก. 2:26 เพราะกายที่ปราศจากจิตวิญญาณนั้นไร้ชีพแล้วฉันใด ความเชื่อที่ปราศจากการประพฤติตามก็ไร้ผลฉันนั้น

ุ6.การยับยั้งลิ้นไว้

ยก. 3:1 ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอาจารย์กันมากหลายคนเลย เพราะท่านก็รู้ว่า เราทั้งหลายที่เป็นผู้สอนนั้น จะได้รับการทรงพิพากษาที่เข้มงวดกว่าผู้อื่น
ยก. 3:2 เพราะเราทุกคนทำผิดพลาดไปหลายๆ อย่าง ถ้าผู้ใดมิได้ทำผิดทางวาจา ผู้นั้นก็เป็นคนดีรอบคอบแล้ว และสามารถบังคับทั้งตัวไว้ได้ด้วย
ยก. 3:3 ถ้าเราเอาบังเหียนใส่ปากม้าเพื่อให้มันเชื่อฟังเรา เราก็บังคับมันให้ไปไหนๆ ได้ทั้งตัว
ยก. 3:4 จงดูเรือด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าเป็นเรือใหญ่ และถูกลมแรงพัดแล่นไป เรือก็ยังหันไปมาด้วยหางเสือเล็กๆ ตามใจนายท้ายที่จะให้ไปทางไหน
ยก. 3:5 ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กๆ และอวดอ้างเรื่องใหญ่ๆ○จงดูเถิด ไฟนิดเดียวอาจเผาป่าใหญ่ให้ไหม้ได้หนอ
ยก. 3:6 และลิ้นนั้นก็เป็นไฟ ลิ้นเป็นโลกที่ไร้ธรรมในบรรดาอวัยวะของเรา เป็นเหตุให้ทั้งกายมลทินไปทำให้วัฏฏะแห่งชีวิตเผาไหม้ และมันเองก็ติดไฟโดยนรก
ยก. 3:7 เพราะสัตว์เดียรัจฉานทุกชนิด ทั้งนก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ในทะเลก็เลี้ยงให้เชื่องได้ และมนุษย์ก็ได้เลี้ยงให้เชื่องแล้ว
ยก. 3:8 แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้เชื่องได้ ลิ้นเป็นสิ่งชั่ว ที่อยู่ไม่สุขและเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย
ยก. 3:9 เราทั้งหลายสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดาด้วยลิ้นนั้น และด้วยลิ้นนั้นเราก็แช่งด่ามนุษย์ ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้ตามพระฉายาของพระองค์
ยก. 3:10 คำสรรเสริญและคำแช่งด่าก็ออกมาจากปากอันเดียวกัน ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า ไม่ควรให้เป็นเช่นนั้น
ยก. 3:11 บ่อน้ำพุจะมีน้ำจืดและน้ำกร่อยพุ่งออกมาจากช่องเดียวกันได้หรือ
ยก. 3:12 พี่น้องทั้งหลายต้นมะเดื่อจะออกผลเป็นมะกอกเทศได้หรือ หรือเถาองุ่นจะออกผลเป็นมะเดื่อได้หรือ บ่อน้ำพุเค็มก็ทำให้เกิดน้ำจืดอีกไม่ได้เลย

7.การประพฤติที่อยู่ในสติปัญญา

ยก. 3:13 ในพวกท่านผู้ใดเป็นคนฉลาดและมีปัญญา ก็ให้ผู้นั้นแสดงการประพฤติของตนด้วยพฤติกรรมอันดี มีใจอ่อนสุภาพประกอบด้วยปัญญา
ยก. 3:14 แต่ถ้าท่านรู้สึกขมขื่นเพราะมีใจริษยาและมักใหญ่ใฝ่สูง ก็อย่าโอ้อวดและอย่าทรยศต่อความจริง
ยก. 3:15 ปัญญาเช่นนี้ ไม่เหมือนปัญญาที่มาจากเบื้องบน แต่เป็นปัญญาอย่างโลกและเป็นโลกียวิสัย และเป็นเช่นปีศาจ
ยก. 3:16 เพราะว่าที่ใดมีความริษยาและความมักใหญ่ใฝ่สูง ที่นั่นก็วุ่นวายและมีการกระทำชั่วช้าลามกต่างๆ
ยก. 3:17 แต่ปัญญาจากเบื้องบนนั้นบริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วจึงเป็นความสงบสุข สุภาพและว่าง่าย เปี่ยมด้วยความเมตตาและผลที่ดี ไม่ลำเอียง ไม่หน้าซื่อใจคด
ยก. 3:18 ผู้สร้างสันติสุข หว่านอย่างสันติ จึงได้เกี่ยวความชอบธรรม

8.ขจัดการรื่นเริงเลี้ยงเฮฮาแบบฝ่ายโลกแบบมารซาตาน

ยก. 4:1 อะไรเป็นสาเหตุของสงคราม และอะไรเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาทกันในพวกท่าน มิใช่กิเลสตัณหาของท่านหรือ ที่ทำให้ท่านต่อสู้กัน
ยก. 4:2 ท่านทั้งหลายอยากได้ แต่ไม่ได้ ท่านก็ฆ่ากัน ท่านโลภแต่ไม่ได้ ท่านก็ทะเลาะและทำสงครามกัน ท่านไม่มีเพราะท่านไม่ได้ขอ
ยก. 4:3 ท่านขอและไม่ได้รับ เพราะท่านขอผิด หวังได้ไปเพื่อสนองกิเลสตัณหาของท่าน
ยก. 4:4 คนทุจริตเอ๋ย ไม่รู้หรือว่า การเป็นมิตรกับโลกนั้น คือการเป็นศัตรูกับพระเจ้า เหตุฉะนั้น ผู้ใดใคร่เป็นมิตรกับโลก ผู้นั้นก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้า
ยก. 4:5 หรือท่านคิดว่าเป็นสิ่งไร้สาระหรือ ที่พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นห่วงวิญญาณที่ได้ทรงประทานให้อยู่ในเราทั้งหลาย”
ยก. 4:6 แต่พระองค์ก็ได้ทรงประทานพระคุณเพิ่มขึ้นอีก เหตุฉะนั้น พระคัมภีร์จึงกล่าวว่า พระเจ้าทรงต่อสู้ผู้ที่หยิ่งจองหอง แต่ทรงประทานพระคุณแก่คนที่ใจถ่อม 
ยก. 4:7 เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงน้อมใจยอมฟังพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร และมันจะหนีท่านไป
ยก. 4:8 ท่านทั้งหลายจงเข้าใกล้พระเจ้า และพระองค์จะเสด็จมาใกล้ท่าน คนบาปทั้งหลายเอ๋ย จงชำระมือให้สะอาด และคนสองใจ จงชำระใจของตนให้บริสุทธิ์
ยก. 4:9 จงเป็นทุกข์โศกเศร้าและร้องไห้ จงให้การหัวเราะกลับกลายเป็นการโศกเศร้า และความปีติยินดีกลับกลายเป็นความเศร้าสลด
ยก. 4:10 ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์จะทรงยกชูท่านขึ้น

9.ไม่วิพากษ์วิจารณ์นินทาใส่ร้ายพี่น้อง

ยก. 4:11 พี่น้องทั้งหลายอย่าใส่ร้ายซึ่งกันและกัน ผู้ใดที่พูดใส่ร้ายพี่น้องหรือตัดสินพี่น้องของตน ผู้นั้นก็กล่าวร้ายต่อธรรมบัญญัติ และตัดสินธรรมบัญญัติ แต่ถ้าท่านตัดสินธรรมบัญญัติ ท่านก็ไม่ใช่ผู้ที่ประพฤติตามธรรมบัญญัติ แต่เป็นผู้ตัดสิน
ยก. 4:12 มีผู้ทรงตั้งธรรมบัญญัติและผู้ทรงพิพากษาตัดสินแต่เพียงองค์เดียว คือพระองค์ผู้ทรงสามารถช่วยเราให้รอดได้ และทรงสามารถทำลายเราได้ แต่ท่านเป็นผู้ใดเล่า ท่านจึงตัดสินเพื่อนบ้านของท่าน

10.ไม่วางใจในความประสงค์ของตัวเอง แต่วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

ยก. 4:13 นี่แน่ะท่านที่พูดว่า “วันนี้หรือพรุ่งนี้เราจะเข้าไปในเมืองนี้เมืองนั้น และจะอยู่ที่นั่นปีหนึ่ง และจะค้าขายได้กำไร”
ยก. 4:14 แต่ว่าท่านไม่รู้เรื่องของพรุ่งนี้ ชีวิตของท่านเป็นเช่นใดเล่า ท่านก็เป็นเช่นหมอกที่ปรากฏอยู่เพียงชั่วครู่แล้วก็หายไป
ยก. 4:15 แทนที่จะพูดเช่นนั้นท่านทั้งหลายควรจะพูดว่า “ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด เราจะมีชีวิตอยู่ และจะกระทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น”
ยก. 4:16 ตามความจริงท่านทั้งหลายโอ้อวดด้วยความทะนงตน การโอ้อวดทุกอย่างเช่นนี้เป็นความชั่ว
ยก. 4:17 เหตุฉะนั้นผู้ใดรู้ว่าอะไรเป็นความดีและไม่ได้กระทำ คนนั้นจึงมีบาป

ยก. 5:1 นี่แน่ะท่านผู้มั่งมี จงร้องไห้โอดครวญเพราะความวิบัติซึ่งจะเกิดกับท่าน
ยก. 5:2 ทรัพย์สมบัติของท่านก็ผุพังไปแล้ว และตัวแมลงก็กัดกินเสื้อผ้าของท่าน
ยก. 5:3 ทองและเงินของท่านก็เกิดสนิม และสนิมนั้นก็จะเป็นพยานหลักฐานการกระทำของท่าน และจะเผาผลาญเลือดเนื้อท่านดุจไฟ ท่านได้ส่ำสมสมบัติไว้แล้วสำหรับอวสานกาล
ยก. 5:4 นี่แน่ะ ค่าจ้างของคนที่ได้เกี่ยวข้าวในนาของท่านซึ่งท่านได้ฉ้อโกงไว้นั้น ก็ร้องฟ้องขึ้น และเสียงร้องทุกข์ของคนที่เกี่ยวข้าวนั้น ได้ทรงทราบถึงพระกรรณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาแล้ว
ยก. 5:5 ท่านมีชีวิตอยู่ในโลกอย่างฟุ่มเฟือยและสนุกสนาน ท่านได้บำเรอจิตใจของท่านไว้รอวันประหาร
ยก. 5:6 ท่านได้ตัดสินลงโทษ และได้ฆ่าคนชอบธรรม เขาก็ไม่ได้ต่อต้านท่าน

11.รอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาด้วยความอดทนนาน

ยก. 5:7 เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย จงอดทนจนกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา จงดูชาวนารอคอยผลอันล้ำค่าที่จะได้จากแผ่นดิน เพียรคอยจนกระทั่งมีฝนต้นฤดูและฝนชุกปลายฤดู
ยก. 5:8 ท่านทั้งหลายก็จงอดทนเช่นนั้นเหมือนกัน จงตั้งอกตั้งใจให้ดี เพราะใกล้จะถึงเวลาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาแล้ว
ยก. 5:9 พี่น้องทั้งหลาย จงอย่าบ่นว่ากันและกัน เพื่อท่านจะไม่ต้องถูกทรงพิพากษา จงดูองค์พระผู้พิพากษาทรงประทับยืนอยู่ที่ประตูแล้ว
ยก. 5:10 พี่น้องทั้งหลาย จงเอาแบบอย่างในการทนทุกข์และการอดทนของผู้เผยพระวจนะ ผู้ได้กล่าวความในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ยก. 5:11 จงดู เราถือว่าผู้ที่อดทนก็เป็นสุข ท่านได้รู้เรื่องความอดทนของโยบ และได้เห็นแล้วว่าในที่สุดปลายนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตากรุณาสักเท่าใด

12.สัตย์จริงในคำพูด ละเว้นในการสาบาน

ยก. 5:12 ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า ที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดก็คือ จงอย่าสบถสาบาน อย่าอ้างฟ้าสวรรค์หรือแผ่นดินโลก หรือสิ่งอื่นๆ แต่ที่ควรว่าใช่ก็จงว่าใช่ ที่ควรว่าไม่ก็จงว่าไม่ เพื่อท่านจะไม่ถูกลงโทษ

13.มีภาคปฎิบัติที่ดีสมบูรณ์ในการดำเนินชีวิตคริสตจักร

ยก. 5:13 มีผู้ใดในพวกท่านทนทุกข์หรือ จงให้ผู้นั้นอธิษฐาน มีผู้ใดร่าเริงยินดีหรือ จงให้ผู้นั้นร้องเพลงสรรเสริญ
ยก. 5:14 มีผู้ใดในพวกท่านเจ็บป่วยหรือ จงให้ผู้นั้นเชิญบรรดาผู้ปกครองของคริสตจักรมา และให้ท่านเหล่านั้นอธิษฐานเพื่อเขา และเจิมเขาด้วยน้ำมันในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ยก. 5:15 และการอธิษฐานด้วยความเชื่อจะช่วยให้ผู้ป่วยรอดชีวิต และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดให้เขาหายโรค และถ้าเขาได้กระทำบาปพระองค์ก็จะทรงโปรดอภัยให้
ยก. 5:16 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และจงอธิษฐานเพื่อกันและกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะพ้นโรคภัย คำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังทำให้เกิดผล
ยก. 5:17 ท่านเอลียาห์ก็เป็นมนุษย์ที่มีสภาพเหมือนกับเราทั้งหลาย และท่านได้อธิษฐานด้วยความเชื่ออันแรงกล้าขอไม่ให้ฝนตก และฝนก็ไม่ตกต้องแผ่นดินถึงสามปีกับหกเดือน
ยก. 5:18 และท่านได้อธิษฐานขออีกครั้งหนึ่ง และฟ้าสวรรค์ได้ประทานฝนให้ และแผ่นดินจึงได้ผลิตพืชผลต่างๆ
ยก. 5:19 พี่น้องของข้าพเจ้า ถ้าคนใดในพวกท่านหลงผิดไปจากความจริง และผู้ใดชักจูงเขาให้เขากลับใจเสียใหม่
ยก. 5:20 จงให้ผู้นั้นรู้เถิดว่า ผู้ที่ช่วยคนบาปคนหนึ่งให้พ้นจากทางผิดของเขานั้น ก็ได้ช่วยจิตวิญญาณของเขาให้รอดพ้นจากความตาย และได้กำจัดบาปเสียมากมาย

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

จงเชื่อแล้วรับบัตติสมาถึงจะได้รับความรอด

มาระโก16ข้อ16 ผู้ใดได้เชื่อและรับบัตติสมาแล้ว ผู้นั้นจะรอด แต่ผู้ไม่เชื่อ จะต้องปรับโทษ 

นี่คือสิ่งที่บัพติศมาได้กระทำแก่มนุษย์
ข้าพเจ้าคิดว่าทุกคนในนิกายโปรแตสแตนท์มีความหวาดกลัวสำหรับพระคัมภีร์ในข้อนี้ ต่างไม่กล้าอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ ทุกครั้งที่อ่านข้อนี้จะแก้เป็นว่า ผู้ใดได้เชื่อและรอดแล้ว ผู้นั้นจะรับบัตติศมา แต่พระคำของพระเจ้าไม่เคยตรัสเช่นนี้ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากมนุษย์ต้องการหลีกเลี่ยงความผิดพลาดของโรมันคาทอลิก จึงจงใจแก้พระคำของพระเจ้า แต่ว่าท่านได้เข้าสู่ความผิดพลาดอีกประการหนึ่ง พระคำของพระเจ้าตรัสไว้ชัดเจนแล้วว่า ผู้ใดได้เชื่อและรอดแล้ว ผู้นั้นจะเข้าบัพติสมา

วอท์ชแมน นี
หนังสือเสริมสร้างผู้แรกเชื่อ

มก. 16:16 ใครเชื่อและรับบัพติศมาก็จะรอด แต่ใครไม่เชื่อจะต้องถูกลงโทษ
มก. 16:16 ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ
มก. 16:16 ผู้ใดเชื่อและรับบัพติศมาแล้วผู้นั้นจะรอด แต่ผู้ใดไม่เชื่อจะต้องปรับโทษ

เราเป็นคนใหม่ของพระคริสต์

«ฝ่ายโยชูวานั้นสวมเครื่องแต่งกายสกปรก ยืนอยู่หน้าทูตสวรรค์ และทูตสวรรค์จึงบอกผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าท่านว่า “จงเปลื้องเครื่องแต่งกายที่สกปรกจากท่านเสีย” และทูตสวรรค์พูดกับท่านว่า “ดูเถิด เราได้เอาความชั่วช้าออกไปเสียจากเจ้าแล้ว และเราจะประดับตัวเจ้าด้วยเสื้อผ้าอันสะอาด”»
เศคาริยาห์ 3:3,4
[พระคัมภีร์ TBS 1998]
อ่านตรงนี้แล้วเหมือนเราทั้งหลายที่เมื่อก่อนก็เป็นคนสกปรกมีบาปชั่วช้าติดตัวมาแต่เกิดแต่ด้วยพระมหาเมตตาพระคุณของพระเจ้าที่ทรงได้เลือกเราไว้ก่อนวางรากสร้างโลก ทำให้วันนี้เราเป็นคนที่สามารถจะใส่เสื้อที่สะอาดได้เพื่อเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า วันนี้เราต้องสลัดทิ้งเสื้อผ้าเก่าสกออกไปจากกาย จิต วิญญาณของเราอย่างสิ้นเชิงสวมเสื้อผ้าใหม่เป็นคนใหม่ของพระคริสต์เพื่อให้พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงเราให้มีความรักชอบเหมือนพระคริสต์เอเมน.

เราทั้งหลายจงอ่อนน้อมสุภาพแบบพระคริสต์

อย่าถือว่าตนเองดีกว่าคนอื่น เพราะในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะดูแย่กว่าคนอื่น พระเจ้าจึงได้สอนให้เราเป็นผู้ถ่อมใจเป็นผู้เล็กน้อยเป็นผู้ทาสรับใช้พี่น้องที่รักในพระคริสต์

ใครจะรู้ถึงสิ่งที่ซ้อนเร้นอยู่ในใจมนุษย์ อย่าภูมิใจในสิ่งที่ทำ การตัดสินขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่เหมือนการตัดสินของมนุษย์ และทำในสิ่งที่มนุษย์ชื่นชมยินดี บ่อยครั้งไม่ใช่สิ่งที่พระองค์พอพระทัย มาตรฐานของเรากับมาตรฐานของพระเจ้าต่างกันมากเนื้อหนังของเราคิดว่าดี แต่วิญญาณของเรานั้นไม่นับเป็นสิ่งที่ดีแต่ประการใดเลย

ถ้าท่านทำสิ่งที่ดีๆ จงเชื่อเถิดว่ามีคนอื่นทำได้ดีกว่ามากมาย เพื่อท่านจะได้รักษาความสุภาพของท่านไว้ การเตือนของพระเจ้าผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่เราจำต้องยอมจำนนต่อพระวิญญาณนั้นเพื่อให้เรามีใจสุภาพต่อพระองค์และต่อพี่น้องในพระคริสต์

ไมม่ใช่เรื่องอันตรายที่จะวางตัวให้ต่ำกว่าคนอื่น แต่กลับเป็นเรื่องที่อันตรายมากกว่า ถ้าจะวางตัวสูงกว่าคนอื่นแม้นเพียงคนเดียว พระเจ้าสอนให้เราเป็นคนถ่อมใจเป็นพี่น้องที่รักน้อยแต่หากเราหลงลืมตัวเย่อหยิางยะโสอวดรู้และดูแคลนพี่น้องต่อให้เป็นนักเทศน์ดังใหญ่ก็ไม่มีค่าอะไรเลยเพราะเราเป็นแค่ผงคลีดินเท่านั้นเอง

สันติสุขเป็นของคนที่มีใจสุภาพ ไม่ใช่ของคนที่ภูมิใจในตนเอง เพราะในหัวใจของเขาจะมีแต่ความอิจฉาและความไม่พอใจ คนที่ถ่อมใจสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนย่อมเป็นที่รักของพี่น้องเสมอ ต่างกับคนที่ยิ่งยะโสอวดเก่งไม่เป็นที่รักของพี่น้อง วันนี้บทเรียนแห่งความสุภาพสอนเราให้ถ่อมใจลงและเป็นคนเรียบง่ายเพื่อถวายพระสง่าราศีแด่พระเยซูคริสต์เจ้าของเราเป็นพยานเพื่ออาณาจักรแห่งพระคริสต์นิรันดร์เอเมน

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การเชื่อพระเยซูคือการมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่

«พระเยซูได้ทรงกระทำหมายสำคัญอื่นๆอีกหลายประการต่อหน้าเหล่าสาวกของพระองค์ ซึ่งไม่ได้จดไว้ในหนังสือม้วนนี้ แต่การที่ได้จดเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ก็เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อแล้ว ท่านก็จะมีชีวิตโดยพระนามของพระองค์»
ยอห์น 20:30,31
[พระคัมภีร์ TBS 1998]
หมายสำคัญที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำนั้นเพื่อให้เรามีความเชื่อมั่นต่อพระเยซูคริสต์ว่าพระองค์เป็นบุตรองค์เดียวของพระเจ้า แต่ไม่ใช่ว่าพอทุกคนเชื่อพระเยซูคริสต์แล้วจำทำการมหัศจรรย์ได้สารพัดแบบพระเยซูคริสต์ ท่านมีชีวิตพระคริสต์สวมทับบริบูรณ์อยู่ภายในท่านหรือยังสลัดเนื้อหนังออกจากตัวท่านได้หมดจดเหมือนพระคริสต์หรือยัง การเชื่อพระเจ้านั่นคือหมายสำคัญการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพราะเราได้กลับคืนดีกับพระเจ้าพระผู้สร้างขอพระเจ้าเปิดตาใจท่านให้เหฌนพระคุณมากกว่าการอัศจรรย์เท่านั้น สรรเสริญพระเจ้า เอเมน.

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

THE NEW TESTAMENT Recovery Version วิทเนสลี



THE NEW TESTAMENT Recovery Version วิทเนสลี
โทร0814500800 และ0890006540

พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ฉับบฟื้นฟูภาคภาษาอังกฤษฉับบนี้วิทเนส ลีได้อธิบายประกอบพระคำในแต่ละข้อแต่ล่ะบริบท อ่านแล้วเหมือนได้เรียนพระคำเป็นการส่วนตัวกับพระคริสต์เพื่อเข้าใจฝ่ยวิญญาณนำพระทัยของพระเจ้าพระประสงค์ของพระเจ้า พระคำเป็นข้อลึกลับยากที่มนุษย์คนบาปจะเข้าใจ พี่น้องคริสเตียนที่แสวงหาเท่านั้นจึงจะเข้าใจพระประสงค์ของพระคริสต์ศิลานิรันดร์พระองค์นี้ หนังสือเล่มนี้เป็นฉับบก้าวหน้าที่มีคำอธิบายฟุตโน็ตเชื่อมโยงข้อมพระคำภีร์แต่ละข้อเป็นอย่างดี และมีอรรถกถาอธิบายข้อพระคัมภีแต่ละข้อที่ละเอียดที่สุด เหมาะสำหรับผู้ศึกษาหลักความจริงในพระคำของพระเจ้า

เราต้องเป็นคนตรงในพระคำของพระเจ้า

«วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่เรียกความชั่วร้ายว่าความดี และความดีว่าความชั่วร้าย (...) ดังนั้นเปลวเพลิงกลืนตอข้าวฉันใด และเพลิงเผาผลาญหญ้าแห้งฉันใด รากของเขาก็จะเป็นเหมือนความเปื่อยเน่า และดอกบานของเขาจะฟุ้งไปเหมือนผงคลีฉันนั้น เพราะเขาทั้งหลายทอดทิ้งพระราชบัญญัติของพระเยโฮวาห์จอมโยธา และได้ดูหมิ่นพระวจนะขององค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล»
อิสยาห์ 5:20,24
[พระคัมภีร์ TBS 1998]
ยุคนี้เราจะเห็นได้ชัดเจนยิ่งเพิ่มมากขึ้นคนหันไปกราบไหว้รูปเคารพสารพัดอย่างบางครั้งไปไหว้สิ่งที่ต่ำกว่าตัวมนุษย์หลายเท่านัก วันหนึ่งเมื่อกาลพิพากษษของพระเจ้ามาถึงคนพวกนี้ก็จะถูกทิ้งในบึ้งไฟนรกเพราะเขาไม่กลับใจยอมรับสารภาพผิดบาปเข้าสู้หนทางแห่งความเที่ยงแท้หนำซ้ำยังดูหมิ่นพระคำของพระเจ้าอีกวิบัติจริงมีแก่พวกเขาเหล่านั้น ข้อคิดของเราวันนี้คือให้เราเป็นคนตรงรอบครอบในพระคำของพระเจ้าเอเมน

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

หนังสืออำนาจกับการนอบน้อม วอท์ชแมน นี

                                     

หนังสืออำนาจกับการนอบน้อม
ผู้เขียน วอท์ชแมน นี
กระดาษถนอมสายตาอย่างดี
โทร 0814500800 และ0890006540

ในปีคศ1949มีการฝึกฝนผู้ร่วมงานที่กู่หลินในเมืองฟูเจา วอท์ชแมน นี ได้ปลดปล่อยข่าวสารเกี่ยวกับอำนาจและการนอบน้อม ทุกคนต้องล้มลงใต้แสงสว่างของพระเจ้าและมีความรู้สึกจากส่วนลึกว่าการงานของผู้ล่วงกฎบัญญัตินั้นได้เติมเต็มทั่วโลก แต่ความรู้สึกของผู้รับพระคุณแห่งความรอดช่างเฉื่อยชายิ่งนัก ในยุคสุดปลายนี้ ถ้าบุตรของพระเจ้าไม่ได้เป็นพยานเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าในเรื่องการนอบน้อม อาณาจักรของพระเจ้าจะถูกนำเข้ามาได้อย่างไร

รม. 13:1 ทุกคนจงนอบน้อมต่อผู้มีอำนาจปกครอง เพราะไม่มีอำนาจใดที่ไม่มาจากพระเจ้า และอำนาจทั้งหลายที่มีอยู่ก็ได้รับจากพระเจ้าทั้งสิ้น
รม. 13:2 ดังนั้น ผู้ที่ต่อต้านอำนาจก็ต่อต้านพระบัญชาของพระเจ้า และผู้ที่ต่อต้านก็จะถูกตัดสินลงโทษ

1ซมอ. 15:22 ซามูเอลก็ว่า พระยาห์เวห์ทรงต้องการเครื่องเผาบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆ เท่ากับที่ทรงต้องการให้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์หรือ ฟังเถิด การเชื่อฟังย่อมดีกว่าการถวายบูชา การอ่อนน้อมย่อมดีกว่าไขมันแกะ 

มธ. 18:17 ถ้าเขาไม่ฟังคนเหล่านั้น จงไปแจ้งต่อคริสตจักร ถ้าเขายังไม่ฟังคริสตจักรอีก ก็ให้ถือว่าเขาเป็นเหมือนคนต่างชาติหรือคนเก็บภาษี


วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

จงวางใจในพระเจ้าอย่าเชื่อมันในตัวเอง

เป็นการไร้ประโยชน์ที่วางใจมนุษย์ หรือส่ิ่งสร้างทั้งหลาย
อย่าอายที่จะรับใช้ผู้อื่นเพราะความรักต่อพระเยซูคริสต์และถูกมองว่าเป็นคนยากจนในชีวิตนี้
อย่าหวังใจตนเอง แต่จงมีความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ และพระองค์จะช่วยในความมีน้ำใจของท่าน
การเป็นผู้รับใช้พระเจ้าแท้ๆๆมาทำด้วยความรักต่อพระเยซูคริสต์เจ้าเพราะเรารักพระองค์เราเห็นว่าชีวิตในโลกนี้เป็นชีวิตเพียงชั่วคราวในโลกนี้ที่พระเจ้าส่งเรามาเพื่อให้ทำงานรับใช้พระองค์เราพาพี่น้องหลงหายที่พระเจ้าเลือกสรรไว้กับคืนสู่อาณาจักรของพระเจ้า เราจึงไม่ร่ำรวยไม่แสวงหาทรัพย์สินที่เปื่อยเน่าผูพังไปในโลกนี้ที่ไม่เที่ยงแท้

อย่าวางใจในความรู้ของท่าน หรือความเฉลียวฉลาดของคนอื่น แต่ควรจะวางใจในพระเมตตาของพระองค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ผู้ทำให้คนอวดได้อับอาย แต่ประทานพระหรรษาแก่คนที่สุภาพถ่อมตน พระเจ้าเรียกคนที่ต่ำต้อยเล็กน้อยให้มาเป็นอัครสาวกมากมายเพราะเรามีความเชื่อแบบผู้ต่ำต้อยเราจึงมีความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ในหนทางชีวิตนิรันดร์

ถ้าท่านรวยอย่าภูมิใจในความร่ำรวยของท่าน ถ้าเพื่อนของท่านมีอำนาจอย่าอวดอ้างถึงอำนาจของเขา
จงชื่นชมในองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ประทานทุกสิ่งและเพิ่มพูนทุกอย่างที่ท่านต้องการแม้นแต่ชีวิตของพระองค์
สิ่งที่เป็นคุณสมบัติที่ดีของผู้รับใช้พระเจ้าคือเราเป็นผู้ทาสที่รับใช้พี่น้องทั้งหลายไม่ได้รับใช้เฉพาะคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น การรับใช้พระเจ้าพระองค์ได้ประทานสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตให้เราผู้รับใช้พระเจ้าอย่างไม่ขัดสน

อย่าภูมิใจว่าท่านมีสุขภาพดีหรือมีร่างกายที่งดงาม เพราะความเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย จะทำให้ทุกอย่างเสื่อมลงและสูญสลายไป เดียวนี้โรคต่างๆๆที่แปลกประหลาดอยากที่วงการแพทย์สมัยใหม่จะทำการรักษาได้มีเพิ่มมากมายขึ้นทุกวัน แต่เมื่อเรามีพระเจ้าจงอธิษฐานทูลขอกับพระเจ้าอย่าได้พึงเจอเลยขอให้เรามีสุขภาพดีเพื่องานรับใช้พระเจ้าสม่ำเสมอ

อย่าอวดดีในความเชี่ยวชาญหรือความสามารถเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานพระพรเหล่านั้นแก่ท่านอาจไม่พอใจ แต่จงถ่อมตนในความมรู้ความชำนาญที่พระเจ้าประทานให้เพื่อเราจะถวายตนในหนทางของพระเจ้า

โยบ 42:2 “ข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงทำทุกสิ่งได้ และพระประสงค์ของพระองค์จะสำเร็จ

ถวายตัวถวายเวลาคืนให้พระเจ้าพระผู้สร้างเราเพื่อดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้า

1 ทิโมธี 6
6จริงอยู่ เราได้รับประโยชน์มากมายจากทางของพระเจ้า พร้อมทั้งความสุขใจ 7เพราะว่าเราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาในโลกฉันใด เราก็เอาอะไรออกไปจากโลกไม่ได้ฉันนั้น 8แต่ถ้าเรามีอาหารและเสื้อผ้า ก็ให้เราพอใจด้วยของเหล่านั้นเถิด 9ส่วนคนเหล่านั้น ที่อยากร่ำรวยก็ตกอยู่ในข่ายของความเย้ายวน และติดบ่วงแร้วและในความปรารถนานานาที่ไร้ความคิดและเป็นภัยแก่ตัว ซึ่งทำให้คนเราต้องถึงความพินาศเสื่อมสูญไป 10ด้วยว่าการรักเงินทองนั้นเป็นมูลรากแห่งความชั่วทั้งมวล และเพราะความโลภนี่แหละ จึงทำให้บางคนห่างไกลจากความเชื่อ และตรอมตรมด้วยความทุกข์
พระคำในทิโมธีได้เตือนสติตัวข้าพระองค์อีกครั้งหนึ่งเรามาเกิดก็มาแต่ตัวเปล่าๆๆตายไปก็ไปแต่ตัวเปล่าๆๆจะเอาอะไรที่หาได้จากโลกนี้ไปไม่ได้สักอย่างของของโลกนี้ก็ต้องเป็นของของโลก การมีเสื้อผ้าใส่มีอาหารกินก็เป็นไปดังพระคำของพระเจ้าที่พระองค์จะทรงเลี้ยงดูผู้ที่รักพระองค์อย่างไม่ขัดสนไม่มีอดไม่ต้องกระวนกระวายใดๆๆทั้งสิ้น การร่ำรวยเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีแต่ในสายพระเนตรของพระเจ้าแล้วเหมือนกับติดกับดักแห่งมารซาตานนั่นเองมันจะหลอกล่อให้เราห่างจากเส้นทางของพระเจ้าทำงานหามรุ่งหามค่ำทุ่มเทให้กับงานจนเหน็ดเหนื่อย เวลาพักผ่อนก็เหลือน้อย เวลาแสวงหาพระเจ้าไม่มีเลยจะอ่านพระคัมภีร์จะอธิษฐานกไม่มีเวลาพอนี่คือความจริงแท้การทำงานให้กับโลกสุดท้ายชีวิตก็สั้นลงเพราะเราเอาชีวิตที่ถวายแด่พระเจ้าไปใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองให้กับเวลาของมารนั่นเองเพราะเราต้องการมีชีวิตที่เกินตัวเกินความจำเป็นอันเป็นบ่วงแร้วทำให้เราเป็นภัยแก่ตัวเองเป็นภัยต่อสุขภาพของตัวเอง การรักเงินทองเป็นสิ่งที่จะทำให้เราตั้งหน้าตั้งตาโกงได้โกงดีหรือใช้เล่ห์เหลี่ยมสารพัดเพื่อให้ได้มาของเงินทองจนหมดเวลาแสวงหาพระเจ้าไม่มีเวลาเหลือให้พระเจ้า พระคำในทิโมธืเตือนเราอีกครั้งด้วยความเมตตาจากพระเจ้าเราต้องหันกลับอย่างสิ้นเชิงถวายเวลาและตัวของเราคืนให้กับพระเจ้าพระผู้สร้างเรามาเพื่อให้เราทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าเอเมน.

พระเจ้าองค์เที่ยงแท้นิรันดร์กาล

«แต่ความเมตตาของพระเยโฮวาห์นั้นดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาลต่อผู้ที่ยำเกรงพระองค์ และความชอบธรรมของพระองค์ต่อหลานเหลน ต่อบรรดาผู้ที่รักษาพันธสัญญาของพระองค์ และระลึกอยู่ที่จะกระทำตามพระบัญญัติของพระองค์»
เพลงสดุดี 103:17,18
[พระคัมภีร์ TBS 1998]
พระยาห์เวห์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ตลอดนิรันกาลเป็นเบื้องต้นและเบื้องปลายเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ที่ข้าพระองค์ยำเกรงด้วยความเชื่อในพระคำของพระองค์ที่เป็นจริงไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ตั้งแต่ตัวข้าเจ้าเชื่อมั่นในพระองค์เป็นตายร่วมกับพระองค์เกิดเป็นคนใหม่ในพระองค์บัดนี้พระองค์กำลังเปลี่ยนแปลงข้าพระองค์ให้เป็นเยี่ยงพระองค์ เพราะข้าพเจ้าคือพีน้องของพระคริสต์เป็นบุตรของพระเจ้าได้รับพระเมตตาให้พ้นนรกบึ้งไฟเข้าส่วนในอาณาจักรสวรรค์เอเมน.

การเอาใจใสพระวิญญาณคือชีวิตแห่งสันติสุข

เมื่อใดก็ตามที่ปรารถนาในเรื่องไม่เหมาะสมสันติสุขจะหายไป
คนถือดีและคนไม่รู้จักพอจะไม่เป็นสุข 
คนรู้จักพอและสุุขภาพจะพบสันติสุขมากมาย
คนที่ไม่ตายจากตนเองอย่างแท้จริงในไม่ช้า จะถูกล่อลวง และพ่ายแพ้แม้นในเรื่องเล็กๆน้อยๆ และในสิ่งชั่วร้าย
การเป็นพี่น้องที่ได้ชีวิตใหม่ในพระคริสต์จะได้รับการเปลี่ยนแปลงมีสันติสุขในที่สุดทั้งนี้ไม่ใช่จากความสามารถของตัวเองแต่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์นำพา เมื่อเราได้ตายร่วมกับพระองค์แล้วได้รับการเป็นขึ้นใหม่ในพระคริสต์วันนี้เราจึงมีชีวิตที่เป็นพี่น้องกับพระบุตรของพระเจ้าพระเยซูคริสต์

เป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความปรารถนาฝ่ายโลกสำหรับผู้มีจิตใจอ่อนแอ และฝักใฝาความสุข รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส
บ่อยครั้งจะเสียใจเมื่อต้องปฎิเสธความปรารถนาในเรื่องเหล่านั้น ง่านที่จะโกรธเมื่อความต้องการถูกต่อต้าน การละทิ้งตัวตนของเราเองนั้นยากยิ่งนักหากเราไม่ยอมจำนนต่อการทรงนำแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ การละลิ้งตัวตนต้องมาจากการเปลี่ยนแปลงด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น

ตรงกันข้ามจะวิตกกังวลเมื่อความปรารถนาได้รับการตอบสนอง มโนธรรมติเตียนที่ทำตามกิเลสและตัณหาของตนเราไม่พบสันติสุขตามที่คาดหวัง 
สันติสุขที่แท้จริงไม่อยู่ในจิตใจของของผู้เป็นทาสของเนื้อหนัง
ผู้ไม่ปล่อยวางสิ่งของภายนอกจะไม่พบสันติสุขในใจ สันติสุขเป็นของผู้ปราถนาองค์พระผู้เป็นเจ้าและดำรงชีวิตฝ่ายวิญญาณเท่านั้น

รม. 8:6 การเอาใจใส่เนื้อหนังก็คือความตาย และการเอาใจใส่พระวิญญาณ ก็คือชีวิตและสันติสุข

ผลของการขอบพระคุณ